บลจ.กรุงศรี จัดสัมมนา Riding High in China with the Top China Fund

27 มกราคม 2563

 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด หรือ บลจ.กรุงศรี จัดสัมมนา “Riding High in China with the Top China Fund” ตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจยุคใหม่ของประเทศจีน บนพื้นฐานที่แข็งแกร่งและราคาที่ยังไม่แพง มีโอกาสทำกำไรได้อีกมาก พร้อมอัปเดทความสำเร็จของกองทุน KFACHINA-A ซึ่งลงทุนผ่านกองทุน UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity กองทุนหุ้นเชิงรุกในตลาดดัชนี A Share ของจีนที่สร้างผลงานโดดเด่นที่สุดเป็นที่หนึ่งของอุตสาหกรรมในรอบปี 2562 ที่ผ่านม



ที่งาน บลจ.กรุงศรี ได้เชิญ คุณวิเวียน เอิงหงึ (Vivien Ng) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากกองทุนหลัก UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity พร้อมด้วยคุณเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก มาร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยุคใหม่ของประเทศจีนที่เจริญเติบโตสวนกระแสกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ความน่าสนใจ โอกาส และปัจจัยเสี่ยงในการลงทุนหุ้น A Share ตลอดจนนโยบายและกลยุทธ์การลงทุน การคัดเลือกสินทรัพย์ ผลประกอบการของกองทุน และปัจจัยที่ทำให้หุ้นจีน A Share ในพอร์ตกองทุนนี้ผงาดทำกำไรได้อย่างงดงาม

ในปี 2562 ที่ผ่านมา ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจีน GDP เติบโตลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างจีน - สหรัฐ การประท้วงในฮ่องกง อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของหุ้นกู้เอกชนหลายแห่ง ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการหลายอย่างเพื่อปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่สดใสนัก แต่กองทุน KFACHINA-A กลับสามารถผงาดทำกำไรได้สูงถึงกว่า 50% และสูงกว่าดัชนีชี้วัดถึงเกือบเท่าตัว โดดเด่นเป็นที่หนึ่งของอุตสาหกรรมกองทุน (ที่มา: Morningstar Thailand  ณ 30 ธ.ค. 62)

ที่มา: ประวัติผลตอบแทนกองทุน KFACHINA-A โดยบลจ.กรุงศรี ณ 29 ธ.ค. 62

ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จของกองทุน UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุน KFACHINA-A มาจากการเลือกลงทุนในบริษัทที่เติบโตสอดคล้องกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ซึ่งเติบโตจากสาเหตุสำคัญสองประการ ได้แก่ การยกระดับการบริโภคของชนชั้นกลางที่มีฐานะดีขึ้น และการพัฒนาด้านเทคโนโลยี คุณวิเวียนกล่าวว่า ปัจจุบันมีชนชั้นกลางที่เลื่อนฐานะเป็นเศรษฐีจำนวนมากขึ้นหลายเท่าตัว จาก 38,000 คน เมื่อปี 2010 เพิ่มขึ้นเป็น 4.4 ล้านคนในปีที่ผ่านมา เมื่อคนเหล่านี้มีรายได้มากขึ้น มีกำลังซื้อมากขึ้น ก็ยินดีที่จะจ่ายเพื่อของคุณภาพดีที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงทำให้การบริโภคเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงเรื่องของเทคโนโลยี ที่ทำให้อีคอมเมิร์ซขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง เช่น การวิจัยพัฒนาเครือข่าย 6G เป็นต้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต
คุณวิเวียนเสริมว่า นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีนแล้ว กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จด้วย โดยกองทุนจะเลือกหุ้นที่มีธุรกิจสอดคล้องกับ 4 เทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีนได้แก่ การบริโภคเพิ่มมากขึ้น ความเจริญของสังคมเมือง ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร แล้วจะพิจารณาคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นผู้ชนะในตลาด มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีหรือพัฒนาบุคลากรอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และมีโอกาสเติบโตเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมในเศรษฐกิจยุคใหม่ในระยะยาว 
 
ที่มา:
  • https://www.caixinglobal.com/2018-07-20/chart-chinas-aging-population-101306922.html
  • https://www.theguardian.com/cities/2017/may/05/megaregions-endless-china-urbanisation-sprawl-xiongan-jingjinji
  • International Federation of Robotics, September 2017
  • WTO, 2018
     
ปัจจุบัน กองทุนมีการลงทุนในหุ้นประมาณ 20 ตัวในพอร์ตการลงทุน โดยมีหุ้นที่โดดเด่นสำคัญๆ ได้แก่ บริษัท Jiangsu Hengrui บริษัทผู้ผลิตยาที่มีการลงทุนทั้งด้านวิจัยและพัฒนา พร้อมทั้งการพัฒนาบุคลากรอย่างมากและมีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดแห่งหนึ่งในระดับโลก บริษัท Kweichow Moutai บริษัทผู้ผลิตเหล้าขาวระดับพรีเมี่ยมอันดับ 1 ของจีน บริษัท Ping An Insurance บริษัทประกันชีวิตที่มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง ทำให้มีโอกาสได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน สามารถเป็นผู้นำตลาดประกันชีวิตและจากการที่ตลาดประกันชีวิตของจีนยังมีขนาดเล็กอยู่เพียง 4.2% จึงมีโอกาสเติบโตอีกมากเนื่องจากผู้คนต้องการหลักประกันสุขภาพที่ดี 
 
ที่มา : Factset, UBS Asset Management ณ 23 ก.ย. 2562
 
ด้านคุณเกียรติศักดิ์ ให้มุมมองว่า นอกจากความน่าสนใจของตัวกองทุนเองแล้ว ตลาดหุ้น A Share ของจีนนั้นก็มีความน่าดึงดูดใจให้เข้าไปลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากโอกาสการเติบโตยังมีอยู่สูง แม้เมื่อปีที่ผ่านมา ตลาดมี P/E อยู่ที่ 9 เท่า และปัจจุบันขยับขึ้นมาเป็น 13 เท่า ก็ถือว่ายังต่ำอยู่ จึงยังมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นต่อไปอีก แม้การปรับตัวสูงขึ้นในปีที่ผ่านมาอาจจะทำให้ตลาดมีการขายเพื่อทำกำไรหรือปรับฐานในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
 
ที่มา : Factset, MSCI, UBS Asset Management ณ 30 ธ.ค. 2562

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาด A Share คือการที่ดัชนี MSCI ได้ประกาศนำหุ้นจีนเข้าคำนวณในดัชนี MSCI China และ MSCI Emerging Market เพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดหุ้นจีน A Share ต่อตลาดหุ้นโลก จะช่วยยกระดับหุ้นจีนให้มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และเป็นสากลมากขึ้น คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นจีน A Share ได้มากขึ้นอีก จากที่ปัจจุบันมีการถือครองของต่างชาติต่ำอยู่ที่ 7-8% เท่านั้น
ตลาด A Share ยังเป็นตลาดที่มีลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ มีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยมากถึง 86% ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้มีความอ่อนไหวง่าย เน้นการลงทุนระยะสั้น เพื่อเก็งกำไร กองทุนจึงมีความได้เปรียบโดยจะอาศัยโอกาสเข้าลงทุนซื้อหุ้นพื้นฐานดี ในช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เกิดความตื่นกลัว เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้น A Share ของจีน สามารถลงทุนผ่านกองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเอแชร์อิควิตี้ – สะสมมูลค่า (KFACHINA-A) ได้ทุกวันทำการที่ บลจ.กรุงศรี ธนาคารกรุงศรี และตัวแทนสนับสนุนการขายต่างๆ รวมทั้งช่องทาง Online อย่าง @ccess Mobile และ @ccess Online service   

สนใจดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม คลิก KFACHINA-A  
 
คำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต  
  • KFACHINA-A ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity (USD) (Class P – acc) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV | กองทุนมีระดับความเสี่ยง 6 : เสี่ยงสูง
  • KFACHINA-A อาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
  • KFACHINA-A มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ 
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด 
โทร 0 2657 5757   
หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากัด (มหาชน) / ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
 

 
 
 
 

เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน