บลจ.กรุงศรี จัดสัมมนา Investing for Lifetime Income and Long-term Growth

13 กุมภาพันธ์ 2561
6 กุมภาพันธ์ 2561 – บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) จัดสัมมนาพิเศษในหัวข้อ Investing for Lifetime Income and Long-term Growth เพื่อนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายของกองทุนประเภท Multi-assets Income Funds ให้นักลงทุนมีโอกาสลงทุนผ่าน 3 กองทุนรวมต่างประเทศชั้นนำระดับโลกที่มีประวัติผลการดำเนินการที่ดีในการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททุกภูมิภาคทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ มากกว่าอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว
 

ในงานสัมมนาที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ มีนาย Leon Goldfeld กรรมการผู้จัดการจากบริษัท J.P. Morgan Asset Management พร้อมด้วยนาย Wildon Goh, Associate Director of Intermediary Sales, South East Asia จากกองทุน Fidelity International และคุณฉัตรแก้ว เกราะทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือกบลจ.กรุงศรี มาร่วมพูดคุยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2561 ทิศทางการลงทุนกับความท้าทายของการลงทุนสินทรัพย์ประเภทต่างๆ โอกาสและทางเลือกที่หลากหลายในการลงทุนต่างประเทศ ซึ่ง บลจ.กรุงศรียังได้นำเสนอกองทุนประเภท Multi-assets Income Funds ให้นักลงทุนได้เลือกตามความความสนใจและความต้องการที่แตกต่าง
 

ทั้งนี้ ผู้บริหารกองทุนทั้งสามท่านให้ความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจในปี 2561 นี้จะยังคงเติบโตไปด้วยดี มีเสถียรภาพ แม้จะมีปัจจัยที่สร้างความผันผวนบ้าง เช่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การใช้นโยบายทางการเงินที่เริ่มตึงตัวขึ้นในหลายประเทศ ปัจจัยด้านการเมืองในหลายประเทศทั่วโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังคงคาดการณ์ว่า GDP โลกปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 3.9% ส่วนในประเทศพัฒนาแล้วจะเติบโตอยู่ที่ 2% ด้วยทิศทางดังกล่าว ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทั้งในยุโรป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเกิดใหม่จะสามารถเติบโตสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงยังสามารถลงทุนในหุ้นได้ต่อไปในปีนี้ เพราะภาพรวมของตลาดยังคงดี 

แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะตกหนักในช่วงที่ผ่านมา J.P. Morgan Asset Management เชื่อว่าเป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้นเท่านั้น ยังไม่ใช่การเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อ ได้แก่ อัตรากำไรและผลตอบแทนของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ยังดีอยู่ อัตราการว่างงานในสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ และ GDP ทั่วโลกยังเติบโต สำหรับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐนั้น คาดการณ์ว่าในปี 2561 นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐได้ยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับการลงทุนในพันธบัตร
 
ด้านความเสี่ยงในการลงทุนนั้น Fidelity International ให้ความเห็นว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2561 นี้ในหลายประเทศเช่นบราซิล รัสเซีย และประเทศในอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย บวกกับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ เช่นระหว่างสหรัฐ และจีน สหรัฐกับเกาหลีเหนือ อาจทำให้ตลาดเกิดความผันผวนในการลงทุนได้บ้าง แต่เชื่อว่าในภาพรวมปีนี้ยังจะเป็นปีที่ดีสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น 
 
ด้วยหลากหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ บลจ. กรุงศรีชี้ว่านักลงทุนควรมีพอร์ตการลงทุนที่มีกลยุทธ์กระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภทเป็นพอร์ตการลงทุนหลัก เนื่องจากสินทรัพย์แต่ละประเภทจะสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรีได้เลือกเฟ้นกองทุนหลักที่มีความโดดเด่น มีประวัติการดำเนินงานที่ดี สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาด โดยทุกกองทุนมีทีมผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในเลือกเฟ้นหาสินทรัพย์ที่ดีหลากหลายประเภท พร้อมปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงเวลาต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ให้นักลงทุนได้อุ่นใจในการรับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาปรับพอร์ตด้วยตนเอง
คุณฉัตรแก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทาง บลจ.กรุงศรี พยายามหาวิธีที่จะเพิ่มผลตอบแทนให้ลูกค้า ให้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ และมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก Income Funds จะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ของนักลงทุนได้ดีกว่า ท่ามกลางสภาวะที่ดอกเบี้ยที่ยังคงต่ำอยู่ กองทุนชนิดนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวที่มองหาช่องทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ย แต่ไม่ต้องการความเสี่ยงเท่ากับการลงทุนในหุ้น แต่กองทุนจะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ เช่นลงทุนในตราสารที่มีการจ่ายดอกเบี้ยในระดับที่ค่อนข้างสูง ลงทุนในหุ้นที่ให้ปันผล ซึ่งอาจมีผลให้ได้รับส่วนต่างของผลกำไร (capital gain) ด้วย” 
 
ทั้งนี้ บลจ. กรุงศรี ได้คัดเลือกกองทุนหลักจากสามสถาบันกองทุนที่มีความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ JPM Global Income ของ J.P. Asset Management,กองทุน Fidelity Funds- Global Multi Asset Income ของ Fidelity International และกองทุน Schroder Asian Income ของ Schroders โดยบลจ. กรุงศรี ได้นำเสนอรูปแบบกองทุนที่เหมาะสมตามความต้องการของนักลงทุน มีทั้งแบบที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดมาเป็นรายได้ (Auto redeem) หรือจะเลือกแบบสะสมการลงทุน (Reinvest) ก็ได้
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน สามารถเลือกลงทุนในกองทุน KF-INCOME เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนรายเดือน* หรือ KF-CINCOME แบบสะสมเงินลงทุน ซึ่งจะลงทุนใน JPM Global Income ที่เน้นการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และ REITS โดยกองทุนนี้เพิ่งมีการปรับพอร์ตการลงทุน เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้น และ REITS มาอยู่ที่ 43%  และลงทุนในตราสารหนี้ (Fixed Income) อีก 42.1% เพราะเชื่อว่าปีนี้หุ้นจะเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนทั้งปีอยู่ที่ 5% หรือถ้าตลาดหุ้นดีตามที่คาด อาจจะสร้างผลตอบแทนได้มากถึง 8-9% โดยน้ำหนักการลงทุนส่วนใหญ่ของกองทุนในปัจจุบันอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
แหล่งข้อมูล: J.P. Morgan Asset Management ณ 31 ต.ค. 61
*เป็นการจ่ายผลตอบแทนโดยการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน ทั้งนี้ การจ่ายผลตอบแทนรายเดือนขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งอาจมีโอกาสที่นักลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนในบางช่วงเวลา
 
สำหรับผู้ที่สนใจกระจายความเสี่ยงเพื่อลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลกสามารถลงทุนในกองทุน KFMINCOME-R หรือ KFMINCOME-A ซึ่งจะลงทุนผ่านกองทุนหลัก Fidelity Funds- Global Multi Asset Income ซึ่งกองทุนนี้จะเน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ทั่วโลก ปัจจุบันกองทุนเห็นโอกาสการลงทุนที่ดีในตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่ สินทรัพย์ทางเลือกที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างพลังงานทางเลือก หรือหุ้นในยุโรปที่ดูน่าสนใจ ทั้งกองทุนยังมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนตลาดหุ้นด้วยการซื้อสัญญาล่วงหน้าไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในตลาดเอเชีย แปซิฟิกซึ่งมีศักยภาพการเติบโตสูง นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในกองทุน KFAINCOM-R เพื่อรับผลตอบแทนแบบรายเดือน* หรือ KFAINCOM-A เพื่อสะสมเงินลงทุน ซึ่งมี Schroder Asian Income เป็นกองทุนหลัก มีการลงทุนทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ และ REITs เช่นกัน แต่เน้นหนักในประเทศในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และจีน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 58% ในตราสารหนี้ 32% และสินทรัพย์อื่นๆ 
แหล่งข้อมูล: Shroders ณ 31 ต.ค. 60
*เป็นการจ่ายผลตอบแทนโดยการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน ทั้งนี้ การจ่ายผลตอบแทนรายเดือนขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งอาจมีโอกาสที่นักลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนในบางช่วงเวลา
 
คำเตือน
- KFAINCOME-A, KFAINCOME-R และ KF-INCOME อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non–Investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วนหรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการจัดการ
-  กองทุน KF-INCOME และ KF-CINCOME อาจเข้าทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมฯ โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และในกรณีที่ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงฯ ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  
- กองทุน KFMINCOME-A, KFMINCOME-R, KFAINCOME-A และ KFAINCOME-R จะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะใดขณะหนึ่งโดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมฯ โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น  
- ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงราคา/ผลตอบแทนในอนาคต 
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนกองทุนได้ที่
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
ชั้น 1-2 โซนเอ, 12, 18 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์
เลขที่ 898 ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ 0 2657 5757 l โทรสาร 0 2657 5777
E-mail: krungsriasset.mktg@krungsri.com | Website: www.krungsriasset.com

เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน