โปรโมชัน/กองทุนแนะนำ
สู้ดอกเบี้ยต่ำ จับโอกาสกำไรไปกับการฟื้นตัวของเอเชีย ด้วย KFAHYBON-A
จากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย สู่คาดการณ์การเติบโตที่แข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่น ตราสารหนี้ High Yield ของเอเชียจึงเป็นคำตอบสำหรับการลงทุนท่ามกลางความท้าทายในยุคดอกเบี้ยต่ำ ด้วยศักยภาพสร้างผลตอบแทนสูง บนประวัติความผันผวนที่น้อยกว่าหุ้น
คาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของเอเชียมีความแข็งแกร่ง
ที่มา: BlackRock ณ 31 ธ.ค. 63
ระดับผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่น่าสนใจ
ที่มา: BlackRock ณ 31 มี.ค. 64 เปรียบเทียบ Asian USD high yield bonds อ้างอิงจากดัชนี ICE BofAML Asian Dollar High Yield Corporate Constrained Index กับ Asian Equities อ้างอิงจากดัชนี MSCI Asia ex-Japan Index
ทำไมจึงควรมีตราสารหนี้ High Yield ในพอร์ตการลงทุน
1. ช่วยกระจายความเสี่ยง
ตราสารหนี้ High Yield มีความสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยต่ำ จีงช่วยกระจายความเสี่ยงจากทิศทางอัตราดอกเบี้ย และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุน
2. เพิ่มโอกาสสร้างกระแสเงินสดรับ
ด้วยระดับความเสี่ยงที่สูงกว่า จึงทำให้ตราสารหนี้ High Yield มักมีการจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไป
3. ศักยภาพสร้างการเติบโตให้เงินลงทุน
โอกาสการปรับเพิ่มขึ้นของราคาตราสาร จากภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว หรือสถานะทางการเงินของผู้ออกตราสารที่ดีขึ้น
ตราสารหนี้ High Yield
คือ ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าตราสารหนี้ระดับ Investment grade คือ ต่ำกว่า BBB-
มักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวหรือกำลังเติบโต หรือในกรณีที่สถานะทางการเงินของผู้ออกตราสาร
มีพัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้น
KFAHYBON-A (กองทุนเปิดกรุงศรีเอเชียนไฮยิลด์บอนด์-สะสมมูลค่า)
จับจุดเด่นของการลงทุนใน Asian High Yield ด้วยการคัดเลือกกองทุนหลัก BGF Asian High Yield Bond Fund กองทุนระดับ Morningstar 5 ดาวที่บริหารโดย BlackRock บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก*
กองทุนหลัก BGF Asian High Yield Bond Fund
- ขับเคลื่อนผลตอบแทนด้วยการให้ความสำคัญกับกระแสเงินสดรับที่ดีที่สุด เมื่อปรับด้วยความเสี่ยง และการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนรายอุตสาหกรรม และการคัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุน
- พอร์ตการลงทุนหลักเน้นตราสารหนี้ High Yield ที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดระดับสูง และโอกาสเติบโตไปพร้อมกับตลาด
- กระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในหลากหลายหลักทรัพย์และอุตสาหกรรม ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกปรับพอร์ตรวดเร็วโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดบนระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม
- บริหารโดยทีมการลงทุนที่เชี่ยวชาญในตราสารหนี้หลากหลายประเภท มีประสบการณ์ในการบริหารกองทุนมาอย่างยาวนาน
ที่มา: BlackRock ณ 31 มี.ค. 64 กองทุนมีการบริหารจัดการในเชิงรุก ซึ่งองค์ประกอบของพอร์ตอาจมีการเปลี่ยนแปลง ลักษณะของพอร์ตการลงทุนเป็นข้อมูล ณ วันที่แสดง และมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ สัดส่วนการลงทุนรายภูมิภาคอ้างอิงจากประเทศจดทะเบียนของผู้ออกตราสารในหลักทรัพย์นั้นๆ และแสดงเป็นอัตราส่วนต่อพอร์ตการลงทุนรวม อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่อ้างอิงจากประเทศที่หลักทรัพย์นั้นๆมีการประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ การจัดสัดส่วนการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลง
*Morningstar rating จาก BlackRock ณ 31 มี.ค. 64 โดยการจัดอันดับดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด | BlackRock เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Citywire.co.uk ณ 16 เม.ย. 64
ข้อมูลทั่วไปของกองทุนหลัก
วันจัดตั้งกองทุน |
1 ธ.ค. 2560 |
Bloomberg ticker |
BGAHD2U:LX |
การจัดสรรน้ำหนักการลงทุน |
- ตราสารหนี้ที่มีศักยภาพสร้างกระแสเงินสดสูง: 70-90% ของพอร์ต
- ตราสารหนี้ที่ราคามีโอกาสเติบโต: 10-30% ของพอร์ต
- น้ำหนักการลงทุนต่อหลักทรัพย์: โดยปกติไม่เกิน 5%
|
Current yield |
กองทุน: 7.1%, Benchmark: 6.1% |
Duration |
กองทุน: 2.2 ปี, Benchmark: 2.7 ปี |
Average rating |
กองทุน: B+, Benchmark: BB- |
จำนวนผู้ออกตราสารในพอร์ต |
105 ราย |
ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก
ที่มา: Bloomberg ณ 31 มี.ค. 64 | วันจัดตั้งกองทุน คือ 1 ธ.ค. 60 | ผลการดำเนินงานที่แสดงคำนวณจากราคารับซื้อคืน ณ สิ้นวัน โดยนำเงินปันผลรวมกลับเข้าลงทุน และเป็นผลตอบแทนภายหลังหักค่าธรรมเนียม | กองทุนมีการจัดการเชิงรุกและที่ปรึกษาการลงทุนสามารถใช้ดุลยพินิจในการคัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุน โดยอ้างอิงดัชนี ICE BofAML Blended Index: ACCY, 20% LvI4 Cap 3% Constrained Index (อีกชื่อหนึ่งคือ “ICE BofAML Asian $ High Yield Corporate Constrained Blended Index”) เพื่อเป็นดัชนีอ้างอิงในการสร้างพอร์ตและการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความเสี่ยงเชิงรุก (active risk) ของกองทุน เช่น ระดับความเบี่ยงเบนจากดัชนียังคงมีความเหมาะสมเมื่อเทียบกับนโยบายและวัตถุประสงค์การลงทุนของกองทุน อย่างไรก็ตาม ทีมที่ปรึกษาการลงทุนไม่ได้ถูกจำกัดจากองค์ประกอบหรือน้ำหนักของดัชนีเมื่อคัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุน โดยสามารถใช้ดุลยพินิจในการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ไม่ได้เป็นองค์ประกอบของดัชนีเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสการลงทุน อย่างไรก็ตาม กรอบการลงทุนรายประเทศและอันดับความน่าเชื่อถือตามวัตถุประสงค์และนโยบายของกองทุนอาจส่งผลต่อข้อจำกัดในการจัดสรรพอร์ตการลงทุนที่อาจแตกต่างจากดัชนี | ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
ข้อมูลกองทุน KFAHYBON-A
นโยบายการลงทุน |
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ BGF Asian High Yield Bond Fund, Class D2 USD (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็น High Yield Bond ซึ่งออกโดยภาครัฐ และบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินกิจการอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน |
ระดับความเสี่ยงกองทุน |
ระดับ 6 | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน |
วันทำการซื้อขาย |
ทุกวันทำการซื้อขายของกองทุน (โปรดอ้างอิงจากปฏิทินวันทำรายการกองทุน) |
เงินลงทุนขั้นต่ำ |
500 บาท |
เสนอขายครั้งแรก (IPO) |
18 – 24 พฤษภาคม 2564 (หลัง IPO: 1 มิ.ย. 2564) |
- กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในตราสารที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่อง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
กองทุน KFAHYBON-A
ย้อนกลับ