นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “ล่าสุด บลจ.กรุงศรี เปิดขายกองทุน KFYENJAI-A ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่เหมาะกับสภาวะการลงทุนปัจจุบันที่ตลาดได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากเงินเฟ้อสูงและนโยบายการเงินของหลายประเทศ ขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นให้ผลตอบแทนน้อยกว่าช่วงที่ผ่านมาและสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นก็จะมีความผันผวนสูง สำหรับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงสูงแต่ต้องการมองหาโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น กองทุน KFYENJAI-A สามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว เพราะกองทุนจะมุ่งควบคุมความผันผวนไปพร้อมกับการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้เป็นสัดส่วนหลักถึง 90% เพื่อสร้างความมั่นคง และยังเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มและจำกัดความเสี่ยงไม่ให้สูงจนเกินไปจากการลงทุนในหุ้นไทย และ REITs ไทย โดยคาดการณ์สัดส่วนการลงทุนอย่างละ 5%” “ด้านกลยุทธ์การลงทุนตราสารหนี้จะเน้นลงทุนผ่านกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ.กรุงศรี ควบคู่ไปกับการลงทุนตรงในตราสารภาครัฐภาคเพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุน โดยกองทุนตราสารหนี้ที่คาดว่าจะลงทุน ได้แก่ กองทุน KFSMART ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น และกองทุน KFAFIX-A เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางที่มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรพอร์ตการลงทุนทั้งด้านอายุและประเภทตราสารที่ลงทุน” “สำหรับพอร์ตตราสารหนี้ในช่วงเริ่มต้นคาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนในกองทุน KFSMART ในสัดส่วน 70% กองทุน KFAFIX-A 20% และลงทุนตรง 10% ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะมีการปรับสัดส่วนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ในส่วนของหุ้นจะลงทุนในหุ้นดัชนี SET 50 และในส่วนของREITs จะลงทุนREITs ที่ราคาไม่แพงมีอัตราเงินปันผลที่น่าสนใจ มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม” นางสุภาพร กล่าว
สอบถามข้อมูลหรือขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757 หรือ ธนาคารกรุงศรี ทุกสาขา ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน …………………………………………………………………………………………………………………….. *** หมายเหตุ *** กองทุน KFYENJAI-A มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ดังต่อไปนี้ 1. ตราสารหนี้ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ 2. หุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงหุ้นที่อยู่ในระหว่าง IPO โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 15 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน 3. หน่วยลงทุนของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และ/หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 15 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน 4. กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่นซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 5 : เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
-