นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า “กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลคอร์อโลเคชั่น (KFCORE) สามารถใช้เป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตการลงทุนสำหรับทุกคน โดย BlackRock จะบริหารกองทุนด้วยการเลือกลงทุนในหลายสินทรัพย์ทั่วโลกทั้งในส่วนของตราสารหนี้และตราสารทุนตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา เน้นสร้างผลตอบแทนที่ดีพร้อมบริหารความเสี่ยงไม่ให้สูงมากเกินไป โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Tactical Asset Allocation ที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัว ปรับพอร์ตในเชิงรุกตามปัจจัยที่เปลี่ยนแปลง เพื่อจัดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆให้สอดคล้องกับสถานการณ์ กลยุทธ์นี้จึงเหมาะกับภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวนสูงและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”
“จุดเด่นในแง่กลยุทธ์การบริหารกองทุนของ BlackRock คือ มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และใช้การวิเคราะห์แบบ Top-down Approach โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัจจัยมหภาคที่เป็นตัวขับเคลื่อนปัจจัยพื้นฐานของแต่ละสินทรัพย์เพื่อเฟ้นหาสินทรัพย์ที่ราคาผิดไปจากที่ควรจะเป็น และใช้ข้อมูลเชิงลึกจากผู้จัดการกองทุนและทีมนักวิเคราะห์ของ BlackRock ทั่วโลกควบคู่ไปกับ Tactical Asset Allocation”
“กลยุทธ์ Tactical Asset Allocation จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 50-80% เพื่อช่วยสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนโดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดยเน้นการลงทุนในตราสารภาครัฐจึงช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างดี ในส่วนของตราสารทุนนั้นจะมีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 20-50% เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบแทนรวมที่ดี โดยเน้นการลงทุนรายประเทศมากกว่ารายอุตสาหกรรม รวมทั้งมีการลงทุนผ่าน ETF ภายใต้การบริหารของ BlackRock ในชื่อ “iShares” ซึ่งเป็นผู้ออก ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมหลากหลายสินทรัพย์และภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งมีต้นทุนต่ำและสภาพคล่องสูง เหมาะสำหรับกลยุทธ์การลงทุนที่ต้องการการปรับพอร์ตอย่างรวดเร็ว”
“ทั้งนี้ ประวัติผลตอบแทนย้อนหลังของกลยุทธ์การลงทุนแบบ Tactical Asset Allocation จากการทำ Backtest ตั้งแต่ปี 2013 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.90% ต่อปี และในปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 15.70% ในปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ -0.90% เท่านั้น**” นางสุภาพร กล่าว
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่
บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
…………………………………………………………………………………………………………………………..
*ที่มา : BlackRock ณ 30 ก.ย. 2563 | ข้อมูลการจัดอันดับจาก Statista.com ณ 7 ก.ค. 63 โดยการจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด
** แหล่งข้อมูล : BlackRock ณ 31 ส.ค. 63 โดยเป็นข้อมูลผลตอบแทนรายสัปดาห์ตั้งแต่ ม.ค. 56 – ส.ค. 63 ในรูปสกุลเงิน USD I ข้อมูลข้างต้นเป็นตัวอย่างผลตอบแทนจากการทำ Backtest ของกลยุทธ์การลงทุน โดยเป็นข้อมูลตั้งแต่ ม.ค. 56 - ส.ค. 63 ซึ่งไม่ได้หมายความถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
KFCORE ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศและ/หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศที่ลงทุนในทรัพย์สิน ได้แก่ ตราสารทุน เงินฝากธนาคาร ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน สินค้าโภคภัณฑ์ ทรัพย์สินทางเลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITs และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ
ระดับความเสี่ยง 5 : เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
กองทุนรวมนี้อาจมีการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้ชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้