จับโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดกับนวัตกรรมพลิกโลกที่รวมไว้ครบใน KFINNO-A

ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นที่ยังคงผันผวนทั่วโลกและกองทุนส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน บลจ.กรุงศรี เดินหน้าเปิดตัวกองทุนใหม่ “กรุงศรี Disruptive Innovation-สะสมมูลค่า (KFINNO-A)” ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Nikko AM Ark Disruptive Innovation Fund ที่มี ARK Investment Management เป็นผู้ให้คำแนะนำการลงทุนสำหรับกองทุนหลัก ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการบริหารพอร์ตกองทุนให้เติบโตแบบก้าวกระโดด

เมื่อเร็วๆนี้ คุณ Catherine Wood  ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO และ CIO แห่ง ARK Investment Management ผู้จุดกระแสและสร้างปรากฏการณ์การลงทุนในหุ้นเติบโตด้วยธีมการลงทุน “นวัตกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง” (Disruptive Innovation) ซึ่งคร่ำหวอดในแวดวงการลงทุนมากว่า 40 ปี พร้อมด้วยคุณพรชนก รัตนรุจิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี ร่วมกันให้ข้อมูลเจาะลึกกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างและทำให้กองทุนประสบความสำเร็จ 

คุณ Catherine Wood   กล่าวว่าแนวคิดการลงทุนแบบ  “Disruptive Innovation” คือ ความเชื่อมั่นว่านวัตกรรมจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงและกำหนดรูปแบบของสังคมในอนาคต ปรากฎการณ์เช่นนี้คล้ายคลึงกับช่วงต้น ค.ศ. 1900s ที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างโทรศัพท์ รถยนต์ และไฟฟ้า นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลกโดยสิ้นเชิง สำหรับในปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน นวัตกรรมก็จะมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงที่ดีของอุตสาหกรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและสังคมทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น   ที่มา: ARK Invest, Nikko AM ณ ม.ค. 64 

ทั้งนี้ ARK Investment แบ่งประเภทของนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกออกเป็น 4 ธีมหลักๆ ได้แก่ 1) นวัตกรรมเชิงอุตสาหกรรม 2) นวัตกรรมด้านอินเทอร์เนต 3) นวัตกรรมด้านการตัดแต่งพันธุกรรม และ 4) นวัตกรรมด้านการเงิน กองทุนจะเน้นการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมเหล่านี้เป็นหลัก ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ได้รับการสนับสนุน จากเทคโนโลยี 5 platforms ที่สำคัญ ได้แก่ การใช้หุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ (Robotics) การพัฒนาแหล่งจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage) การวิเคราะห์ DNA เพื่อการรักษาโรค (DNA Sequencing) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูล (Blockchain Technology) 
 
คุณ Catherine Wood​   กล่าวเสริมว่า นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจะช่วยเพิ่มผลผลิต สร้างการเติบโตให้กับ GDP และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ รวมทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมหาศาล ทำให้เกิดความต้องการเพิ่มมากขึ้นในทั่วทุกอุตสาหกรรม เมื่อส่วนประกอบสำคัญอย่างเทคโนโลยีที่ใช้มีต้นทุนที่ถูกลง และราคาที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดการขยายตัวของฐานลูกค้า การเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งสามส่วนนี้จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งเมื่อถึงเวลาเหมาะสม นวัตกรรมต่างๆ ก็จะเผยโฉมออกมาหลังจากผ่านช่วงเวลาของการพัฒนาเป็นที่เรียบร้อย

ความเชื่อมั่นใน “Disruptive Innovation” เป็นสิ่งที่ทำให้ ARK Investment มีวิธีการทำงานที่แตกต่างจากกองทุนอื่นๆ  โดยปกติแล้ว กองทุนทั่วไปจะมีทีมนักวิเคราะห์แบ่งตามภาคอุตสาหกรรมต่างๆ แต่สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนี้ จะมองถึงนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลก จึงมีทีมนักวิเคราะห์วิจัยที่เป็นคนรุ่นใหม่จากหลากหลากสาชาวิชาชีพ ทั้งนักวิจัย นักทดลอง นักนวัตกรรม ที่ปรึกษา รวมทั้งผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมด้านต่างๆ แต่ละคนล้วนมีประสบการณ์และความชำนาญในแต่ละหัวข้อนวัตกรรมที่เลือกลงทุนมาแชร์ความคิดเห็นร่วมกัน และจะวิเคราะห์วิจัยในเชิงลึกแบบ Top-Down คือตั้งสมมุติฐานและศึกษาหาความเป็นไปได้ของนวัตกรรมด้านต่างๆ รวมทั้งศึกษาโอกาสทางการตลาดและการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทั้งอุตสาหกรรม แล้วสนับสนุนด้วยการวิเคราะห์เจาะลึกแบบ Bottom-up คือมองหาบริษัทที่มีความน่าสนใจ ตอบโจทย์ทางนวัตกรรม มีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีความสามารถในการแข่งขันและมีราคาที่เหมาะสม แล้วจึงเข้าลงทุน