จับจุดหุ้นจีน A Share หลังโควิด..พลิกวิกฤตเป็นโอกาส

6 มิถุนายน 2563
 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด จัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “จับจุดหุ้นจีน A Share หลังโควิด..พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” เชื่อเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวกลับมาผงาดได้อีกครั้งหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย และ New China จะเป็น theme การลงทุนในตลาดหุ้นที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในระยะกลางถึงยาว เพราะราคายังอยู่ในระดับต่ำ และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังต่ำและเศรษฐกิจยังเติบโตช้า พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นในกองทุน UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกรุงศรีไชน่าเอแชร์อิควิตี้ – สะสมมูลค่า (KFACHINA-A) ที่จะยังคงทำผลงานได้เหนือตลาด พิสูจน์ได้จากช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา 


สำหรับสัมมนาครั้งนี้ คุณวิเวียน หงึ (Vivien Ng) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากกองทุนหลัก UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity พร้อมด้วยคุณเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี มาร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังวิกฤตโควิด-19 รวมทั้งทิศทางการเจริญเติบโต โอกาสและความเสี่ยงของตลาด A Share กลยุทธ์การคัดเลือกหุ้น ตลอดจนวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงที่ทำให้กองทุนประสบความสำเร็จทำผลงานได้เหนือกว่าตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพอร์ตการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว 

คุณเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า วิกฤตโควิด-19 ทำให้ตลาดหุ้นจีนโดยรวมลดลงไป 15% แต่ขณะนี้ตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับมาได้ 10% เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนได้ผ่านพ้นช่วงต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากมาตรการการควบคุมจากภาครัฐและความร่วมมือจากภาคประชาชนทำให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับตลาดในระยะสั้นยังเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เพราะระดับหนี้ภาครัฐจะยังคงสูงอยู่ และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมก็จะยังคงมีอยู่ แต่เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ จะเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น แต่คาดว่าในระยะยาวจะไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก เนื่องจากผู้คนหันมาใช้ระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น และการปรับจาก Globalization มาให้ความสำคัญกับการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น

คุณวิเวียนกล่าวว่า แนวโน้มสำคัญจะเกิดขึ้นใน New China หรือเศรษฐกิจจีนยุคใหม่มีอยู่ 4 ทิศทาง คือเรื่องของการบริโภคเพิ่มขึ้น การขยายตัวของเมือง นวัตกรรมและเทคโนโลยี และการก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย แต่ปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วมี 2 ประการสำคัญ ได้แก่ ความนิยมในการบริโภคสินค้า และบริการที่เป็นระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เนื่องมาจากการทุ่มลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างมากมายและต่อเนื่องในช่วง 2552-2562 ที่ผ่านมามีการใช้งบประมาณด้าน R&D มากถึงกว่า 3 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ ทำให้เกิดนวัตกรรมด้านสินค้าและบริการต่างๆที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเกิดขึ้นมากมาย เช่น นวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า นวัตกรรมบริการด้านการเงินและด้านสุขภาพที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนยุคใหม่

 

 
การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนยุคใหม่สะท้อนในการเติบโตของตลาดหุ้น A Share ด้วยเช่นกัน สำหรับกองทุนหลัก UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity Fund China A Opportunity ซึ่งจัดตั้งในปี 2556  มีการเติบโตมากถึง 13.8% มากกว่า MSCI World ซึ่งเติบโตอยู่ที่ 4.3% และ MSCI China ที่เติบโตเพียง 3.5% และปัจจุบันตลาด A Share เป็นตลาดสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก รองจาก Nasdaq เท่านั้น  ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ A Share คือ ราคาของตลาดยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยมี P/E เพียง 12.4 เท่า ขณะที่ตลาดอื่นๆ P/E ส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 20 เท่า จึงเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะกลางถึงยาว
 

 
นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีนแล้ว คุณวิเวียนกล่าวว่ากลยุทธ์การลงทุนก็มีส่วนสนับสนุนให้กองทุนทำผลงานได้ดีกว่าตลาดมาโดยตลอดด้วย โดยกองทุนจะเลือกลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ และคัดเลือกหุ้นที่โดดเด่นเป็นที่หนึ่งหรือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้กองทุนทำผลงานได้เหนือตลาดมาโดยตลอด เห็นได้ชัดเจนในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ตลาดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากติดลบไปถึงเกือบ 20% ขณะที่กองทุนติดลบเพียง 5 - 10% เท่านั้น และหุ้นห้าอันดับแรกของกองทุนยังคงทำกำไรได้ในทุกตัว แม้จะลดลงไปบ้างในช่วงวิกฤต 
 

 
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กองทุนยังได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสโดยเพิ่มการลงทุนในหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากวิกฤตโควิด-19 โดยตรง ที่มีพื้นฐานดี มีศักยภาพที่จะเติบโตในระยะยาวได้แก่ หุ้น Tencent Holdings ผู้นำธุรกิจเกมทางมือถือ หุ้น TAL Education ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเรียนทางออนไลน์ และหุ้น Kweichow Moutai ผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดเหล้าระดับพรีเมี่ยมที่ราคาลดลงในช่วงวิกฤต และตอนนี้ราคาได้กลับมาเติบโตอีกครั้งหลังจากวิกฤตผ่านพ้นไปแล้ว  
 
ปัจจุบัน กองทุนให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคระดับพรีเมี่ยม (Consumption & Premiumization) เช่น บริษัท Kweichow Moutai บริษัทผู้ผลิตเหล้าขาวระดับพรีเมี่ยมอันดับ 1 ของจีน กลุ่มสุขภาพ เช่น Jiangsu Hengrui บริษัทผู้ผลิตยาอันดับหนึ่งของจีนที่มีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดแห่งหนึ่งในระดับโลก กลุ่มประกันชีวิต เช่น Ping An Insurance บริษัทประกันชีวิตที่มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างสูงเพื่อสร้างความได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน และกลุ่มการเงิน เช่น China Merchants Bank เป็นต้น 
 
แหล่งข้อมูล:  UBS Asset Management ณ 30 เม,ย. 2563 / รูปประกอบจากเว๊บไซต์ของแต่ละบริษัท/ รูป Ping An จาก Forbes.com

สำหรับปัจจัยความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่อาจทำให้เกิดการสร้างกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนนั้น คุณวิเวียนกล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีนมากนักเนื่องจากตลาดขึ้นกับการบริโภคภายในประเทศมากกว่าพึ่งพาตลาดของสหรัฐ ส่วนกำแพงภาษีก็ไม่น่ามีผลกระทบเพราะหากสหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนก็จะทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐเองจะได้รับผลกระทบไปด้วย นโยบายดังกล่าวจึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง 

คุณเกียรติศักดิ์กล่าวสรุปว่า ด้วยภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเติบโตในระดับต่ำ และอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกนาน นักลงทุนจึงยังควรลงทุนในหุ้นกันต่อไป แต่ควรมองหาธีมการลงทุนที่แข็งแกร่ง ซึ่ง New China จะเป็นธีมที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้ สำหรับกองทุน UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2556 สามารถทำผลงานชนะตลาดมาได้อย่างต่อเนื่อง   ในปัจจุบัน บริษัทที่อยู่ในกองทุนมีศักยภาพในสร้างการเติบโตของผลกำไรถึง 15%   คุณเกียรติศักดิ์เชื่อว่าภายหลังจากวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว บริษัทต่างๆที่กองทุนลงทุนจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีศักยภาพในสร้างการเติบโตระยะยาวให้นักลงทุนได้ 
 
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้น A Share ของจีน สามารถลงทุนผ่านกองทุน KFACHINA-A ได้ทุกวันทำการที่ บลจ.กรุงศรี ธนาคารกรุงศรี และตัวแทนสนับสนุนการขายต่างๆ รวมทั้งช่องทาง Online อย่าง @ccess Mobile และ @ccess Online service   
 

สนใจดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม คลิก KFACHINA-A  

 
คำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต 
  • KFACHINA-A ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity (USD) (Class P – acc) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV | กองทุนมีระดับความเสี่ยง 6 : เสี่ยงสูง
  • KFACHINA-A อาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
  • KFACHINA-A มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ 
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด 
โทร 0 2657 5757  หรือ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากัด (มหาชน) / ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
 

เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน