Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
ข่าว/ประกาศกองทุน
>
ข่าวกองทุน
>
บลจ.กรุงศรี เผยมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2562
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
บลจ.กรุงศรี เผยมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2562
24 ธันวาคม 2561
นางสุภาพร ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี
เปิดเผยว่า “สำหรับมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2562 นั้น บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตราสารทุนระยะกลางถึงยาว แม้ว่าในระยะสั้นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยอาจมีความผันผวนและมีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามกระแสเงินลงทุนต่างชาติและปัจจัยภายนอกประเทศอยู่บ้าง แต่ตลาดหลักทรัพย์ไทย ยังเป็นที่น่าสนใจลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆในภูมิภาค โดยตลาดหลักทรัพย์ไทยมีค่า P/E ปี 2562 อยู่ที่ 14.0 เท่า ขณะที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 14.3 เท่า และ 15.4 เท่า ตามลำดับ ด้านอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของไทยอยู่ที่ร้อยละ 3.4 ซึ่งสูงกว่าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เช่นกัน ทั้งนื้ คาดการณ์ว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 1,800 – 1,900 จุดในอีก 12 เดือนข้างหน้า” (ข้อมูลจาก บลจ.กรุงศรี ณ วันที่ 30 พ.ย. 61)
“นอกจากนี้ ในระยะกลางถึงยาวการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยไทยที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังคงแข็งแกร่ง การใช้จ่ายภาครัฐฯที่มีแนวโน้มขยายตัว การเลือกตั้งที่มีความชัดเจนมากขึ้น และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนฯมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.27 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน” (ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 26 พ.ย. 61)
“สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตราสารหนี้ในปี 2562 มีปัจจัยสำคัญทั้งภายในและภายนอกประเทศที่จะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาด โดยปัจจัยต่างประเทศจะมาจากแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวของกลุ่มประเทศขนาดใหญ่และปัญหาการเผชิญหน้าในสงครามการค้าที่อาจจะยืดเยื้อจนส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่โดยเฉพาะประเทศจีนและประเทศที่เกี่ยวข้องจะชะลอตัวลง จนส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนในตลาดกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เพราะกลัวผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและจะเลือกลงทุนเฉพาะในประเทศที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจและเสถียรภาพด้านต่างประเทศมั่นคงเป็นหลัก”
“ด้านนโยบายการเงินในสหรัฐ ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐใกล้จะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยในวัฎจักรรอบนี้แล้ว อย่างไรก็ดีภายหลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐคาดว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มอีกสองครั้งในปี 2562 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวได้ดี ส่วนทางด้านธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศยุติโครงการเข้าซื้อพันธบัตรแล้ว และคาดว่าจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า หากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวทางชัดเจนขึ้น”
“ด้านปัจจัยภายในประเทศคาดว่านักลงทุนจะให้ความสำคัญกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศและทิศทางนโยบายการเงินของไทยเป็นหลัก โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศในช่วงไตรมาสสามเริ่มสะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมการขยายตัวของไทยเริ่มชะลอลงสอดคล้องกับภูมิภาคโดยมีภาคต่างประเทศทั้งการส่งออกและท่องเที่ยวเป็นตัวฉุด ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนยังคงเติบโตได้อยู่ ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐยังมีความมั่นใจในการเติบโตของไทยแม้จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ในปีนี้และปีหน้าลงบ้าง”
“ส่วนด้านโยบายการเงินของไทยนั้น ภายหลังจากที่ทางคณะกรรมการนโยบายการเงินได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยที่เคยปรับตัวสูงขึ้นมาในช่วงก่อนหน้าเริ่มกลับมาปรับตัวลดลง โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุคงเหลือช่วงกลางถึงยาว เพราะนักลงทุนคาดว่าอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำจะเป็นปัจจัยกดดันให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยปรับขึ้นได้ไม่มากเท่ากับของสหรัฐ อีกทั้งพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุคงเหลือยาวมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้ออยู่เป็นระยะ”
“สำหรับผลกระทบกับตลาดตราสารหนี้จากการขึ้นดอกเบี้ยน่าจะอยู่ในระดับที่จำกัด เนื่องจากภาวะตลาดและนักลงทุนได้รับรู้ข่าวการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนหน้าแล้ว และคาดว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะรอประเมินผลกระทบและทิศทางเศรษฐกิจไทยอีกระยะหนึ่งก่อนจะพิจารณาถึงโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไป ดังนั้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในปีหน้าน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าปีนี้ นักลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาวไม่ควรวิตกกังวลเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากเกินไป”
“ด้านมุมมองที่มีต่อการลงทุนในต่างประเทศนั้น ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง 3 ปัจจัย ได้แก่ ความไม่แน่นอนในการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ความตึงเครียดประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และความกังวลในยุโรปที่มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเด็น ประกอบด้วยประเด็นที่หนึ่งการถอนมาตรการ QE ของธนาคารกลางยุโรปในเดือนธันวาคม ในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจกลับมาทรุดตัวอีกครั้ง ประเด็นที่สองคือความกังวลที่อิตาลีอาจนำไปสู่วิกฤตหนี้ยุโรปอีกครั้ง โดยอิตาลีมีหนี้อยู่ในระดับที่สูงถึง 131%ต่อ GDP ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในยุโรป หากเปรียบ เทียบกับหนี้ของกรีซที่เป็นชนวนให้เกิดการทรุดตัวของดัชนียุโรปในปี 2012 แล้ว หนี้สินของอิตาลีมีความใหญ่กว่าหลายเท่า หากปัญหาครั้งนี้เริ่มจากอิตาลีก็มีความเป็นไปได้ที่วิกฤตนี้อาจใหญ่เกิน ที่สหภาพยุโรปจะรับไหว ประเด็นที่สามคือการที่พรรคขวาจัดเริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างมีนัยยะในปีที่ผ่านมา และ นโยบายของผู้นำที่ถูกเลือกขึ้นมามักจะมีลักษณะประชานิยมเน้นเอาประโยชน์ของประเทศตนเป็นหลัก ไม่คำนึงความเป็นสหภาพยุโรปหรือส่วนรวม ดังที่เห็นได้จากการต่อต้านและแข็งข้อกับสหภาพยุโรปมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การแตกแยกได้ในอนาคต แม้ว่าในปัจจุบันความเสี่ยงนี้ยังมีไม่มาก ซึ่งประเทศดังกล่าว ได้แก่ กรีซ สเปน อังกฤษ อิตาลี โปแลนด์ และล่าสุด เยอรมัน ที่พรรค CDU ของนาง Angela Merkel เริ่มสูญเสียคะแนนเสียงให้กับพรรคขวาจัดจนนาง Angela Merkel ประกาศวางมือที่จะเป็นผู้นำของพรรคต่อหลังจากหมดวาระในรอบนี้แล้ว”
“สำหรับภาพรวมของตลาดยุโรปในปี 2562 คาดว่าจะเผชิญกับความท้าทายในประเด็นของความไม่แน่นอนด้านการเมืองและมีความเสี่ยงที่ปัญหาหนี้สินยุโรปจะกลับมาเป็นประเด็นกดดันตลาดอีกครั้ง ด้านการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอาจมีท่าทีชะลอลงจากคาดการณ์ว่าจะขึ้น 3 ครั้งลงมาเหลือ 2 ครั้งในปีหน้า หากตัวเลขเศรษฐกิจในรอบหน้าได้รับผลกระทบจากประเด็นสงครามการค้าและตัวเลขเงินเฟ้อไม่ได้ร้อนแรงอย่างที่กังวลในต้นปี เนื่องจากราคาน้ำมันนั้นได้ปรับตัวลดลงมาอย่างมากในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนั้นจะส่งผลดีต่อกองทุนตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตาม ในต้นปีหน้ามีความเสี่ยงที่ประเด็นสงครามการค้าจะกลับมาส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดทั่วโลกอีกครั้ง” นางสุภาพร กล่าว
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ
ดาวน์โหลด
โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
ย้อนกลับ
ข่าว/ประกาศกองทุน
ข่าวกองทุน
คลิปสัมมนา (Youtube)
ประกาศกองทุน
โปรโมชัน / กองทุนแนะนำ
ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี
บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง