บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้ KF-GTECH ชูศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง
เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2560 เงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า “การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมาก และเป็นกลุ่มที่สามารถเติบโตได้ดีท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีได้ทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในทุกด้าน กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน มีการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบที่หลากหลายทั่วโลก และมีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังเห็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นโดยตลอด ยิ่งช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มเติบโตได้สูง ถ้ามองความต้องการทางฝั่งองค์กรธุรกิจ จะเห็นว่าการลงทุนด้าน IT เป็นหนึ่งในต้นทุนที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในหลายองค์กร ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เทคโนโลยีกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก”
“อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีความน่าสนใจในหลายด้าน ทั้งในส่วนของปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งบนระดับราคาที่สมเหตุสมผล ปัจจุบันมูลค่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอยู่ที่ระดับ 10-20 เท่า นับได้ว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับอดีต โดยเฉพาะในช่วง dotcom bubble ซึ่งมูลค่าหุ้นในกลุ่มดังกล่าวเคยขึ้นไปสูงถึงเกือบระดับ 50 เท่า ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานนั้นได้ปรับตัวดีขึ้นมาก และมีงบการเงินของบริษัทที่แข็งแกร่ง อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้นสูงที่สุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ (แหล่งข้อมูล : T. Rowe Price ณ 31 ธ.ค. 59) ทั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรกของโลกในปี 2016 เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ได้แก่ Apple , Alphabet , Amazon , Facebook , Microsoft” (แหล่งข้อมูล : Visual Capitalist ณ 12 ส.ค. 59)
“บลจ.กรุงศรี เล็งเห็นถึงความน่าสนใจและโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้ KF-GTECH ที่ลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund ซึ่งบริหารโดยผู้จัดการกองทุนชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากกว่า 16 ปีในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กองทุนหลักยังมีจุดเด่นในเรื่องของการบริหารกองทุนเชิงรุก เน้นลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมใหม่ๆในการพลิกโฉมอุตสาหกรรม มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วในโลกยุคอินเตอร์เน็ต มีทรัพย์สินทางปัญญาที่แข็งแกร่ง มีกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ มีปัจจัยพื้นฐานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และ ผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ยาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตและมีผลกำไรที่ดีในอนาคต”
“กองทุนหลักจะให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมที่ดีบนระดับราคาที่น่าสนใจ และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในบริษัทขนาดเล็ก หรือบริษัทใหม่ๆที่มีกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการผลิต ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่ลงทุนจะเน้นลงทุนในเทคโนโลยีประเภท Artificial intelligence (AI) , Machine learning และ Big data เช่น Salesforce.com , Alibaba , Tesla Motors , Amazon.com , Netflix , PayPal Holdings”
“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่ากองทุน KF-GTECH จะเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหารูปแบบการลงทุนใหม่ๆ โดยสามารถรับความผันผวนในระยะสั้นและสามารถรับความเสี่ยงในระดับที่สูง เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะปานกลางถึงระยะยาว และควรมีระยะเวลาในการถือครองขั้นต่ำตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ บริษัทได้จัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุน KF-GTECH ในช่วงการเสนอขายครั้งแรกครบทุกๆ 100,000บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน KF-GTECH มูลค่า100 บาทด้วย”
“กองทุน KF-GTECH ลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund
โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของNAV ความเสี่ยงระดับ 7 : เสี่ยงสูง (ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน) และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยการตัดสินใจของผู้จัดการกองทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน” น.ส.ศิริพร กล่าว”
กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้ KF-GTECH มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ กองทุน T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาหรือใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี โดยเน้นบริษัทที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทั่วโลกซึ่งรวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่ ดังนั้นกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และ/หรือการเมืองในประเทศซึ่งกองทุนหลักได้ลงทุน
กองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรม จึงอาจมีความเสี่ยงและความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของหมวดอุตสาหกรรมดังกล่าวเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย
กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ทำให้กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมทั่วไป
กองทุนจะไม่ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจึงอาจมีความเสี่ยงสูง อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน