Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
วางแผนการลงทุน
>
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
>
เทคโนโลยีกับโอกาสในการลงทุน
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
เทคโนโลยีกับโอกาสในการลงทุน
ศิริพร สินาเจริญ
CFA , กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
ผู้เขียนมีโอกาสได้อ่านบทความเรื่องหนึ่งพบว่าปัจจุบันทั่วโลกมีประชากรประมาณ 7,800 ล้านคน โดยประชากรจำนวน 4,380 ล้านคนมีการใช้งานอินเทอร์เน็ต และมีการใช้โทรศัพท์มือถือประมาณ 5,100 ล้านคน นอกจากนี้ ประชากรทั่วโลกประมาณ 3,250 ล้านคนมีการใช้โซเชียลมีเดียผ่านโทรศัพท์มือถือเนื่องจากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
จากตัวเลขสถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า
เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับโลกเพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันส่งผลให้พฤติกรรมของทุกคนเปลี่ยนไป
ตัวอย่างใกล้ตัวที่เห็นได้ง่ายเช่น ในอดีตการลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านจะสร้างความกังวลมากกว่าการลืมมือถือไว้ที่บ้าน แต่ปัจจุบันแม้ว่าจะลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านเราก็ยังสามารถใช้ มือถือในการกดเงินจากตู้ ATM หรือสามารถชำระค่าสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ในทางตรงกันข้ามหากเราลืมมือถือไว้ที่บ้านหลายคนอาจเกิดความกังวลหรือมีอาการหงุดหงิด เพราะการติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลต่างๆที่ต้องการจะกลายเป็นเรื่องยากไปในทันที
อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในทุกๆด้าน ระบบอินเตอร์เน็ตและการใช้งานโซเชียลมีเดียช่วยให้การดำเนินชีวิตสะดวกสบายขึ้น ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆเป็นไปอย่างง่ายดายเสมือนย่อโลกทั้งใบให้อยู่ในมือ
ส่งผลให้บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเท่านั้นแต่ยังมีบทบาทต่อเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึ้นและยังมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นหลายแห่งทั่วโลกอีกด้วย
หากเราย้อนกลับไปดูในยุคปี 2000 จะพบว่าสมัยนั้นหุ้น GE (General Electric) มีมูลค่าทางการตลาดใหญ่ที่สุดโดยมีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยหุ้น Microsoft (ไมโครซอฟท์) และหุ้นธนาคารซิติแบงค์ จากนั้นในช่วงปี 2006 – 2011 ซึ่งเป็นยุคที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่างบริษัท Exxon (เอ็กซอนโมบิล บริษัทแม่ของเอสโซ่) มีมูลค่าทางการตลาดที่ใหญ่ที่สุดประมาณ 4 แสนเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมอย่าง Shell (เชลล์ จาก เนเธอร์แลนด์) และ Total (โททาล จาก ฝรั่งเศส) แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงปี 2016 ราคาน้ำมันกลายเป็นขาลงอีกทั้งกระแสพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น หุ้นกลุ่มน้ำมันจึงหมดอิทธิฤทธิ์ไปจากตลาด
จากนั้นได้กลายเป็นยุครุ่งเรืองของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีบทบาทและโดดเด่นในตลาดหุ้น นำโดยหุ้นมหาชนอย่าง แอปเปิ้ล อิงค์, กูเกิ้ล (alphabet), ไมโครซอฟท์, แอมะซอน เป็นต้น หุ้นต่างๆเหล่านี้มีมูลค่าทางการตลาดเกิน 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐแทบทั้งสิ้น และเป็นไปไม่ได้เลยที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยจะไม่ซื้อหุ้นกลุ่มนี้ไว้ในพอร์ต เพราะหุ้นต่างๆเหล่านี้ล้วนมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงมากสามารถส่งมอบคุณค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐานที่อยู่ในความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ดังเห็นได้จากการที่ทุกคนแทบจะพกมือถือติดตัวตลอดเวลา (Apple, Huawei, Samsung) และยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Google, Line เป็นต้น
เทคโนโลยีด้านการติดต่อสื่อสารยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำเราไปสู่ร้านค้าออนไลน์อย่าง Amazon , Alibaba จากนั้นเวลาเราจะทำการจ่ายเงินค่าสินค้าเราจะต้องจ่ายผ่าน VISA, MasterCard, Paypal เป็นต้น หรือแม้กระทั่งเวลาเราจะเดินทางหรือแม้แต่การสั่งอาหารก็มีการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นอย่าง Grab หรือ Line Man ยามพักผ่อนอยู่กับบ้านก็มักจะไม่พลาดหนังหรือซีรี่ย์เรื่องโปรดจาก NetFlix หรือ AIS playbox เป็นต้น สิ่งต่างๆที่กล่าวมาสะท้อนให้เห็นถึงการก้าวเข้ามาของเทคโนโลยี
การดำเนินชีวิตในปัจจุบันมีการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายเป็นอย่างมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะเป็นหุ้นที่มีศักยภาพและมีความโดดเด่นในทศวรรษนี้
การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ และเป็นกลุ่มที่สามารถเติบโตได้ดีท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีได้ทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในทุกด้านกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน มีการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบที่หลากหลายทั่วโลก และมีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังเห็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นตลอดเวลา ยิ่งช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มเติบโตได้สูง หากมองความต้องการทางฝั่งองค์กรธุรกิจจะพบว่าการลงทุนด้าน IT เป็นหนึ่งในต้นทุนที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในหลายองค์กร ปัจจัยเหล่านี้
ส่งผลให้เทคโนโลยีกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก
การลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของบริษัทขนาดใหญ่และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ทำให้นักลงทุนทั่วไปมีข้อจำกัดในการเข้าถึงมากกว่านักลงทุนสถาบัน เช่น ราคาของหุ้นไมโครซอฟท์มีราคาซื้อ-ขายในปัจจุบันอยู่ในระดับ 130 เหรียญต่อหุ้น หรือประมาณ 4,160 บาทต่อหุ้น ส่วนหุ้นแอปเปิ้ล อิงค์ ราคา 210 เหรียญต่อหุ้น หรือประมาณ 6,800 บาท
กองทุนรวมต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนทั่วไป เพราะเป็นช่องทางที่ทำให้เข้าถึงการลงทุนในหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่หลากหลายโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเหมือนการลงทุนด้วยตนเอง
ปัจจุบันที่ บลจ.กรุงศรี ได้มีกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก อย่างกองทุนเปิดกรุงศรีเวิล์ดเทคอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์-สะสมมูลค่า (KFHTECH-A)
ลงทุนในกองทุนหลัก BGF World Technology Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 7 : เสี่ยงสูง โดยกองทุนหลักจะให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมที่ดีบนระดับราคาที่น่าสนใจ และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในบริษัทขนาดเล็ก หรือบริษัทใหม่ๆที่มีกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการผลิต ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่ลงทุนจะเน้นลงทุนในเทคโนโลยีประเภท Artificial intelligence (AI) , Machine learning และ Big data เป็นต้น
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุน KFHTECH-A มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ กองทุน BGF World Technology Fund โดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่มีธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในหมวดเทคโนโลยี ดังนั้น กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และ/หรือการเมืองในประเทศซึ่งกองทุนหลักได้ลงทุน
กองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรม จึงอาจมีความเสี่ยงและความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของหมวดอุตสาหกรรมดังกล่าวเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย
กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลักอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ทำให้กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมทั่วไป
กองทุนไทยจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
ดูข้อมูลกอทุน KFHTECH-A
ย้อนกลับ
วางแผนการลงทุน
เริ่มต้นการลงทุน
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
วางแผนเพื่อลดหย่อนภาษี
แบบทดสอบระดับความเสี่ยง
คำนวณเงินลงทุนใน SSF
คำนวณเงินลงทุนใน RMF
คำนวณเงินลงทุนใน Thai ESG
@ccess Mobile Application
ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง