Flash Update


หุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567

26/04/2567


สรุปสถานการณ ์
  • ผลประกอบการ Alphabet แข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจาก AI  ขับเคลื่อนการเติบโตของ Google Cloud ดันราคาหุ้น +13%
  • ผลประกอบการ Microsoft เติบโตแข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจาก AI ช่วยเพิ่มรายได้ธุรกิจ Cloud
  • ผลประกอบการ Meta แข็งแกร่ง แต่คาดการณ์แนวโน้มรายได้ไตรมาสปัจจุบันต่ำกว่าคาด และค่าใช้จ่ายด้าน AI สูง ฉุดราคาหุ้นปรับตัวลง 15%
  • ผลประกอบการ Tesla ต่ำกว่าคาด แต่ประกาศแผนผลิตรถ EV รุ่นใหม่ ราคาประหยัด ดันราคาหุ้น After Hours +13

Alphabet บริษัทแม่ของ Google
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFNDQ, KFUSINDX และ KFWINDX 
  • Alphabet ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2024 รายได้หลังหักการจ่ายเงินให้คู่ค้าอยู่ที่ 67,600 ล้านดอลลาร์ +16% YoY และสูงกว่าคาดที่ 66,100 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Earning อยู่ที่ 1.89 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 1.53 ดอลลาร์
    • รายได้จาก Google Search อยู่ที่ 46,156 ล้านดอลลาร์ +14% YoY
    • รายได้จาก Google Cloud อยู่ที่ 9,574 ล้านดอลลาร์ +28% YoY 
    • รายได้จากโฆษณา YouTube อยู่ที่ 8,090 ล้านดอลลาร์ +20% YoY
    • รายได้จาก Google Network อยู่ที่ 7,413 ล้านดอลลาร์ -1% YoY
  • Alphabet มีรายได้หลักมาจาก Google Search แต่รายได้จาก Google Cloud ก็เติบโตแข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจาก AI ซึ่ง Google Cloud ทำกำไรได้ครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้ว    สำหรับไตรมาสล่าสุดกำไรอยู่ที่ 900 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 672.4 ล้านดอลลาร์
  • Google มีการลงทุนกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรก โดยเน้นลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค เช่น Server และ Data Center ขณะเดียวกันบริษัทก็มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมได้ ทั้งนี้การเติบโตของรายได้ Cloud ก็เป็นผลมาจากการลงทุนในนวัตกรรม AI ที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้
  • Alphabet จะจ่ายเงินปันผล 20 เซนต์ต่อหุ้นเป็นครั้งแรก และจะซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีก 70,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตในระยะยาว บวกกับงบที่ออกมาแข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคาหุ้น After-Hours เพิ่มขึ้น 13%

 Microsoft บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFCLIMA, KFCYBER, KFESG, KFGBRAND, KFGTECH, KFHTECH, KFNDQ, KFUSINDX และ KFWINDX
  • Microsoft ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2024 ที่สิ้นสุด ณ 31 มี.ค. 2024 รายได้อยู่ที่ 61,900 ล้านดอลลาร์ +17% YoY สูงกว่าคาดที่ 60,900 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Earning อยู่ที่ 2.94 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 2.83 ดอลลาร์ ได้แรงหนุนจากการที่บริษัทนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ และช่วยเพิ่มรายได้ในธุรกิจ Cloud
    • รายได้ส่วน Productivity & Business Process ที่คิดเป็น 32% ของรายได้ทั้งหมด ขยายตัว 12%
    • รายได้ส่วน Intelligent Cloud ที่คิดเป็น 43% ของรายได้ทั้งหมด ขยายตัว 21% ได้แรงหนุนจากรายได้
    • Azure cloud-services เพิ่มขึ้น 31% จาก 30% ในไตรมาส ก่อนหน้า และสูงกว่าคาดที่ 29% ซึ่งแรงหนุนจาก AI ช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของ Azure ได้ถึง 7%
    • รายได้ส่วน Personal Computing ที่คิดเป็น 25% ของรายได้ทั้งหมด ขยายตัว 17%
  • Microsoft ระบุว่าบริษัทยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโอกาสในการสร้างรายได้จาก AI ในระยะยาว ซึ่งรายได้จาก Azure กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • Microsoft คาดการณ์รายได้ Azure cloud-services ไตรมาสปัจจุบันจะขยายตัว 30% ถึง 31% สูงกว่าคาดที่ 29% สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน คาดการณ์การเติบโตของยอดขายและรายได้จากการดำเนินงานมากกว่า 10%
  • ราคาหุ้น After-Hours ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 4% หลังงบออกมาแข็งแกร่ง

Meta บริษัทแม่ของ Facebook
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFGMIL, KFHTECH, KFNDQ, KFUSINDX และ KFWINDX
  • Meta ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2024 รายได้อยู่ที่ 36,455 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 36,160 ล้านดอลลาร์ และ +27% YoY ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 ได้แรงหนุนจากรายได้โฆษณาบนแพลตฟอร์มที่มากขึ้น
  • Meta ยังคงควบคุมต้นทุนได้ดี สะท้อนผ่านต้นทุนการขายและการตลาดลดลง 16% YoY ช่วยหนุนให้กำไรสุทธิสูงขึ้นอยู่ที่ 12,369 ล้านดอลลาร์ +117% YoY ขณะที่ Earning อยู่ที่ 4.71 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 4.32 ดอลลาร์
  • Meta ยกเลิกรายงานจำนวน Daily Active User และ Monthly Active User แต่รายงานตัวเลข Family Daily Active People (DAP) หรือจำนวนผู้ใช้งานรายวันรวมทุกแพลตฟอร์มทั้ง Facebook, Instagram และ WhatsApp แทน
    • Family Daily Active People อยู่ที่ 3,240 ล้านราย +7% YoY, +1.6% QoQ
    • Family Average Revenue per Person อยู่ที่ 11.2 ดอลลาร์ +18% YoY, -9% QoQ
  • Meta ยังคงมีแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของ AI เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้แนะนำเนื้อหาและโฆษณาที่เหมาะกับความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน แต่ครั้งนี้บริษัทระบุว่าต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และสูงกว่าที่เคยคาดไว้
  • Meta คาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันเฉลี่ยจะอยู่ที่ 37,750 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 38,300 ล้านดอลลาร์
  • แม้ว่างบไตรมาสล่าสุดของ Meta จะแข็งแกร่ง แต่นักลงทุนกังวลหลังบริษัทให้คาดการณ์แนวโน้มรายได้ไตรมาสปัจจุบันที่ต่ำกว่าคาด และมีค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนใน AI ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้น After Hours -15% ทั้งนี้ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 40%

Tesla ผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลก
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFNDQ, KFINNO และ KFUS
  • Tesla ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2024 รายได้อยู่ที่ 21,301 ล้านดอลลาร์ -9% YoY และต่ำกว่าคาดที่ 22,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรายได้ลดลงสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 เมื่อดูแบบ YoY
    • รายได้จากธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 17,378 ล้านดอลลาร์ -13% YoY
    • รายได้จากธุรกิจ Energy Storage อยู่ที่ 1,635 ล้านดอลลาร์ +7% YoY
    • รายได้จากบริการและอื่นๆ อยู่ที่ 2,288 ล้านดอลลาร์ +25% YoY
  • อัตรากำไรขั้นต้นในส่วนของธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 16.4% ต่ำกว่าคาดที่ 17.6%และต่ำกว่าจุดสูงสุดที่บริษัทเคยทำได้ถึง 30% เมื่อต้นปี 2022 ขณะที่ EPS อยู่ที่ 0.45 ดอลลาร์ ต่ำกว่าคาดที่ 0.52 ดอลลาร์
  • ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวลดลงกว่า 40% ตั้งแต่ต้นปี หลัง Tesla เผชิญกับปัญหา Price War ส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดราคาหลายครั้ง แต่ยอดขายรถยนต์ก็ยังลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ รถกระบะพลังไฟฟ้า Cybertruck ที่เป็นความหวังของ Tesla ตัวใหม่ ล่าสุดก็ถูกเรียกคืนจากปัญหาคันเร่งค้าง
  • แม้ว่า Tesla จะรายงานผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด แต่บริษัทได้ประกาศแผนผลิตรถ EV รุ่นใหม่ราคาประหยัด สามารถแข่งขันได้ ซึ่งจะเริ่มผลิตภายในปีนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้น After Hours ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 13%
หมายเหตุ: ข้อมูล Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก ณ มี.ค. 67 และที่มาข้อมูลบริษัทต่างๆ ดังนี้
  • Alphabet & Microsoft: Bloomberg, CNBC, Company website | รายได้ประกาศ 25 เม.ย. 67 | อัปเดต ณ 26 เม.ย. 67
  • Meta: Bloomberg, CNBC, Company website | รายได้ประกาศ 24 เม.ย. 67 | อัปเดต ณ 25 เม.ย. 67
  • Tesla: Bloomberg, CNBC, Company website | รายได้ประกาศ 23 เม.ย. 67 | อัปเดต ณ 24 เม.ย. 67
ข้อมูลกองทุนกรุงศรี คลิก
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • KFCYBER ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security, Class RT (USD) ที่บริหารจัดการโดยบริษัท Allianz Global Investors GmbH โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFCLIMA/ KFCLIMARMF ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก DWS Invest ESG Climate Tech, Class USD TFC โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFESG ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก AB Sustainable Global Thematic Portfolio, Class S1 USD ซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัท AllianceBernstein (Luxembourg) S.a.r.l. โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFGBRAND/ KFGBRANSSF/ KFGBRANRMF ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Fund - Global Brands Fund (Class Z) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFGMIL ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Goldman Sachs Global Millennials Equity Portfolio, Class I Shares (Acc.) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFGTECH ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund (Class Q) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • KFHTECH ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก BGF World Technology Fund (Class D2 USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • KFINNO ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Nikko AM ARK Disruptive Innovation Fund, Class A (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFNDQ ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFUS ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund, Class B Acc (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFUSINDX ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFWINDX ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก iShares MSCI ACWI ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFGTECH/ KFHTECH มีความเสี่ยงระดับ 7 - เสี่ยงสูง | กองทุนที่เหลือมีความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง
  • KFCYBER/KFESG/ KFGG/ KFGMIL/ KFHTECH/ KFHEUROP/ KFINNO/ KFNDQ/ KFUS และ KFUSINDX  ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • KFGBRAND/ KFGTECH/ KFUS และ KFWINDX ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (*โดยปกติกองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน)
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม และ RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณอายุ
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สอบถามข้อมูลกองทุน หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757
หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือ ตัวแทนสนับสนุนการขาย/ เจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอดูหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด โทร 0 2657 5757 หรืออีเมล krungsriasset.clientservice@krungsri.com
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน