สรุปสถานการณ์
- ผลประกอบการ Meta สูงกว่าคาด รายได้เพิ่มขึ้น 21% YoY มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คาดการณ์ปี 2025 จะเป็นปีแห่ง AI
- ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรผลิตชิปของ ASML สูงกว่าคาด 2 เท่า ขับเคลื่อนจากความต้องการ AI ที่ยังแข็งแกร่ง
- ผลประกอบการ Microsoft โดยรวมยังคงดีกว่าคาด แต่คาดการณ์รายได้ธุรกิจ Cloud จะชะลอตัวจากข้อจำกัดด้าน Supply
- Tesla สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วยแผนการเติบโตและการเปิดตัว Robotaxi แม้ผลประกอบการจะต่ำกว่าคาด
- ผลประกอบการ Apple สูงกว่าคาดเล็กน้อย หนุนจากรายได้ธุรกิจบริการที่แข็งแกร่ง แม้ยอดขาย iPhone ต่ำกว่าคาด
Meta บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram, WhatsApp
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก KFUSINDX, KFUSINDFX, KFWINDX, KFINNO, KFUS, KFNDQ, KFHTECH, KFFUTUREGEN, KFGLOBAL, KFGLOBFX (ข้อมูล ณ ธ.ค. 67)
- Meta ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2024 รายได้อยู่ที่ 48,385 ล้านดอลลาร์ +21% YoY และสูงกว่าคาดที่ 46,977 ล้านดอลลาร์
- กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 49% YoY เป็น 20,800 ล้านดอลลาร์ จาก 14,000 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน และ Earning อยู่ที่ 8.02 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าคาดที่ 6.78 ดอลลาร์ต่อหุ้น
- จำนวนผู้ใช้งานรายวันและรายได้รวมทุกแพลตฟอร์มของ Facebook, Instagram และ WhatsApp
- Family Daily Active People อยู่ที่ 3,350 ล้านราย +5% YoY และสูงกว่าคาดที่ 3,320 ล้านราย
- Family Average Revenue per Person อยู่ที่ 14.25 ดอลลาร์ +15.6% YoY
- ในส่วนของ Metaverse Reality Labs สร้างรายได้ 1,100 ล้านดอลลาร์ แต่ยังคงขาดทุนราว 5,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้
- จากการเปิดตัว DeepSeek ของจีน เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Meta ในแนวทาง Open Source โดย Meta กำลังผลักดันโมเดล Llama เป็นทางเลือกแบบ Open Source ให้กับเทคโนโลยีจาก OpenAI และ Google
- Meta ยังคงยืนยันถึงแผนการลงทุนระหว่าง 60,000-65,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI
- สำหรับรายได้ไตรมาสแรก Meta คาดว่าจะอยู่ในช่วง 39,500-41,800 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 41,730 ล้านดอลลาร์
- มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวว่าขณะนี้เรามีรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีของประเทศ และมองในแง่ดีเกี่ยวกับความก้าวหน้าและนวัตกรรมที่อาจเกิดขึ้น
ที่มา: Bloomberg, CNBC, Company website
รายได้ประกาศ: 29 ม.ค. 68 | อัปเดต: 30 ม.ค. 68
ASML บริษัทผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปรายใหญ่ในเนเธอร์แลนด์
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก KFGTECH, KFGG, KFHEUROP, KF-EUROPE, KFGLOBAL, KFGLOBFX (ข้อมูล ณ ธ.ค. 67)
- ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรผลิตชิปของ ASML ไตรมาส 4/2024 สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์กว่าสองเท่า ได้แรงหนุนจากความต้องการแข็งแกร่งจากการเติบโตของ AI ซึ่งกระตุ้นความต้องการเครื่องจักรผลิตชิปของบริษัท
- ยอดคำสั่งซื้อของ ASML อยู่ที่ 7,090 ล้านยูโร สูงกว่าคาดที่ 3,530 ล้านยูโร หนุนจากเครื่องจักร EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) รุ่นล้ำสมัยซึ่งใช้ในการผลิตชิป ระดับ high-end ที่มียอดคำสั่งซื้อถึง 3,000 ล้านยูโร
- ในส่วนรายได้รวมของ ASML อยู่ที่ 9,260 ล้านยูโร และกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,690 ล้านยูโร สูงกว่าคาดที่ 9,070 ล้านยูโร และ 2,640 ล้านยูโร ตามลำดับ
- ผลประกอบการของ ASML ออกมาหลังจากราคาหุ้นที่ลดลงกว่า 7% และมูลค่าตลาดของบริษัทลดลงมากกว่า 19,000 ล้านยูโร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากโมเดล AI ใหม่ของจีน DeepSeek ทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายจำนวนมากของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI อย่างไรก็ตาม DeepSeek ไม่สามารถซื้อเครื่องจักรผลิตชิป EUV ของ ASML ได้เนื่องจากข้อจำกัดทางการค้า
- แม้จะมีข้อจำกัดทางการค้ากับจีน ASML ก็ยังได้รับอานิสงส์จากความต้องการเครื่องจักรในจีน โดยในไตรมาสที่ 4 รายได้จากจีนอยู่ที่ 1,920 ล้านยูโร หรือ 27% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท อย่างไรก็ตาม ASML คาดว่าสัดส่วนรายได้จากจีนจะกลับสู่ระดับปกติประมาณ 20% ของรายได้รวมในปีนี้
ที่มา: Bloomberg, CNBC
รายได้ประกาศ: 29 ม.ค. 68 | อัปเดต: 29 ม.ค. 68
Tesla บริษัทรถยนต์ EV สหรัฐฯ
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก KFINNO, KFNDQ, KFUSINDX, KFUSINDFX, KFWINDX, KFHTECH (ข้อมูล ณ ธ.ค. 67)
- Tesla ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2024 รายได้อยู่ที่ 25,707 ล้านดอลลาร์ +2% YoY แต่ต่ำกว่าคาดที่ 27,206 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากธุรกิจยานยนต์ลดลง 8% อยู่ที่ 19,800 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 21,560 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
- ขณะที่รายได้จากการขาย Regulatory Credit ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นอยู่ที่ 692 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 739 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสก่อน
- อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 6.2% ลดลงจาก 8.2% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 10.8% ในไตรมาสก่อนหน้า
- ในส่วนของ EPS อยู่ที่ 0.73 ดอลลาร์ต่อหุ้น ต่ำกว่าคาดที่ 0.75 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทได้รับกำไรจาก Bitcoin 600 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
- สำหรับแผนการเติบโตในปีนี้ อีลอน มักส์ ยืนยันว่า Tesla จะเริ่มให้บริการ Full Self-Driving (FSD) ในออสตินภายในเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะขยายไปยังแคลิฟอร์เนียและรัฐอื่นๆ ภายในสิ้นปี โดยอีลอน มัสก์ เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎระเบียบระดับประเทศเพื่อสนับสนุนรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ
- นอกจากนี้ Tesla วางแผนให้เจ้าของรถสามารถเพิ่มรถของตนเข้าสู่เครือข่าย ride-hailing อัตโนมัติแบบ Airbnb เพื่อสร้างรายได้
- ขณะที่แผนผลิตรถยนต์รุ่นราคาประหยัดยังคงดำเนินไปตามกำหนด โดยมีกำหนดเริ่มผลิตในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
- Tesla ระบุว่าจะใช้การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการผลิตปัจจุบันและแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าต้นทุนอาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
- ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองเชิงบวกต่อ Tesla เนื่องจากมีการตั้งเป้ายอดขายอยู่ในระดับที่เป็นไปได้มากขึ้น นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอีลอน มัสก์ และทรัมป์ อาจเป็นปัจจัยบวกต่อ Tesla โดยเฉพาะในด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ
ที่มา: Bloomberg, CNBC, Company website
รายได้ประกาศ: 29 ม.ค. 68 | อัปเดต: 30 ม.ค. 68
Microsoft บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก KFUSINDX, KFUSINDFX, KFUS, KFNDQ, KFGLOBAL, KFGLOBFX, KFGTECH, KFHTECH, KFWINDX, KFGBRAND, KFESG, KFCLIMA (ข้อมูล ณ ธ.ค. 67)
- ผลประกอบการ Microsoft ไตรมาส 4/2024 รายได้อยู่ที่ 69,600 ล้านดอลลาร์ +12% YoY เป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงมากที่สุดตั้งแต่กลางปี 2023 แต่ยังคงสูงกว่าคาดที่ 68,900 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Earning อยู่ที่ 3.23 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าคาดที่ 3.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น
- กลุ่ม Productivity and Business Processes ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ Office, LinkedIn มีรายได้ 29,440 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% สูงกว่าคาดที่ 28,890 ล้านดอลลาร์
- กลุ่ม Intelligent Cloud มีรายได้ 25,540 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19% แต่ต่ำกว่าคาดที่ 25,830 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากรายได้ Azure cloud-services ชะลอตัวลงจาก 33% ในไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 31% เนื่องจากปัญหาด้าน Supply ที่ยังไม่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่
- กลุ่ม More Personal Computing ซึ่งรวมถึง Windows, Bing, Surface และ Xbox มีรายได้ 14,650 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับปีก่อน และสูงกว่าคาดที่ 14,290 ล้านดอลลาร์
- Microsoft คาดว่ารายได้จาก Azure cloud-services จะยังคงชะลอตัวลงในไตรมาสปัจจุบันจากข้อจำกัดด้าน Supply แต่คาดว่าปัญหาจะคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
- CEO ของ Microsoft กล่าวว่า AI ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และบริษัทสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุนได้มากกว่า 2 เท่าต่อการพัฒนาฮาร์ดแวร์ในแต่ละรุ่น และมากกว่า 10 เท่าต่อการพัฒนาโมเดลในแต่ละรุ่นจากการเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์
- Microsoft คาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันจะอยู่ที่ 67,700 - 68,700 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เล็กน้อยที่ 69,780 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Bloomberg, CNBC, Company website
รายได้ประกาศ: 29 ม.ค. 68 | อัปเดต: 30 ม.ค. 68
Apple บริษัทเทคระดับโลก
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก KFUSINDX, KFUSINDFX, KFNDQ, KFWINDX, KFGTECH, KFHTECH, KFFUTREGEN (ข้อมูล ณ ธ.ค. 67)
- Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2024 รายได้อยู่ที่ 124,300 ล้านดอลลาร์ +4% YoY และสูงกว่าคาดเล็กน้อยที่ 124,100 ล้านดอลลาร์ ได้แรงหนุนจากรายได้ส่วนบริการ แต่รายได้จาก iPhone ลดลงและต่ำกว่าคาดมากที่สุดในรอบ 2 ปี จากยอดขายในจีนที่ลดลง 11% อยู่ที่ 18,510 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ CEO ของ Apple ระบุว่ายอดขาย iPhone ค่อนข้างดี ในประเทศที่มีการเปิดตัว Apple Intelligence แต่ซอฟต์แวร์ดังกล่าวยังไม่เปิดให้บริการในจีน
- รายได้ iPhone ลดลง 1% อยู่ที่ 69,140 ล้านดอลลาร์ และต่ำกว่าคาดที่ 71,030 ล้านดอลลาร์
- รายได้ Mac เพิ่มขึ้น 15% อยู่ที่ 8,980 ล้านดอลลาร์ เติบโตดีที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
- รายได้ iPad เติบโต 15% อยู่ที่ 8,080 ล้านดอลลาร์
- รายได้สินค้าอื่นๆ เช่น หูฟัง, Apple Watch, AirPods ลดลง 2% อยู่ที่ 11,750 ล้านดอลลาร์
- รายได้ส่วนบริการ เช่น App Store, Apple Music, แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง TV+, iCloud เพิ่มขึ้น 14% อยู่ที่ 26,340 ล้านดอลลาร์
- Apple มีกำไรสุทธิ 36,330 ล้านดอลลาร์ +7.1% YoY ขณะที่ EPS อยู่ที่ 2.4 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าคาดที่ 2.35 ดอลลาร์ต่อหุ้น
- อัตรากำไรขั้นต้นหรือ Gross Margin ในไตรมาสล่าสุด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับตัวขึ้นเป็น 46.9% จากรายได้ส่วนบริการที่มีสัดส่วนต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 21% ส่งผลให้กำไรของ Apple ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่ายอดขาย iPhone จะลดลงเล็กน้อย
- Gross Margin ที่เพิ่มขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีของบริษัท เห็นถึงการปรับตัวที่นอกจากจะเป็นบริษัทชั้นนำด้านฮาร์ดแวร์แล้ว ก็ยังเป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัลอีกด้วย
- Apple คาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันจะเติบโตราว 6% และธุรกิจบริการจะเติบโตขั้นต่ำ 10% ขณะที่ Gross Margin คาดว่าจะอยู่ที่ 46.5% - 47.5%
ที่มา: Bloomberg, CNBC, Company website
รายได้ประกาศ: 30 ม.ค. 68 | อัปเดต: 31 ม.ค. 68
ข้อมูลกองทุนกรุงศรี คลิก:
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
- KFFUTUREGEN ลงทุนกองทุนหลัก Goldman Sachs Global Future Generations Equity Portfolio โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFGLOBAL/ KFGLOBFX ลงทุนในกองทุนหลัก Global Unconstrained Equity Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFWINDX ลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI ACWI ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFNDQ ลงทุนในกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFUS ลงทุนในกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFUSINDX/KFUSINDFX ลงทุนในกองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KF-EUROPE/KFHEUROP กองทุนจะลงทุนในกองทุนหลัก Allianz Europe Equity Growth Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFGBRAND ลงทุนในกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Fund - Global Brands Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFINNO ลงทุนในกองทุนหลัก Nikko AM ARK Disruptive Innovation Fund, Class A โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFGTECH ลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFHTECH ลงทุนในกองทุนหลัก BGF World Technology Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFGG ลงทุนในกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFCLIMA ลงทุนในกองทุนหลัก DWS Invest ESG Climate Tech โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFESG ลงทุนในกองทุนหลัก Sustainable Global Thematic Portfolio โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
- KFGTECH/ KFHTECH มีความเสี่ยงระดับ 7 - เสี่ยงสูง | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน | กองทุนที่เหลือมีความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง
- KF-EUROPE/KFGBRAND/KFGLOBAL/ KFGTECH/ KFNDQ/ KFUS และ KFWINDX ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ส่วน
- KFGLOBFX/KFUSINDFX/KFUSINDFXRMF ไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณอายุ | ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สอบถามข้อมูลกองทุน หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757
หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือ ตัวแทนสนับสนุนการขาย/ เจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน