Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
สรุปภาวะตลาด
>
สรุปภาวะตลาดรายวัน
>
สรุปภาวะตลาดประจำวันที่ 27 กันยายน 2566
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
สรุปภาวะตลาดรายวัน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
27/09/2566
ปัจจัยสำคัญ
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลง โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างก็ดิ่งลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาด และความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะถูกปิดการดำเนินงานหรือชัตดาวน์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 8.7% สู่ระดับ 675,000 ยูนิตในเดือน ส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 695,000 ยูนิต จากระดับ 739,000 ยูนิตในเดือน ก.ค. ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่อยู่ในระดับสูง และการดีดตัวขึ้นของดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ผลสำรวจ Conference Board สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 103.0 ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 105.5 จากระดับ 108.7 ในเดือน ส.ค. โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค.
นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไทมส์ ออฟ อินเดียว่า ประเทศทั่วโลกอาจยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้าย ในกรณีที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 7% ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงันในเวลาเดียวกับที่เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับสูง (Stagflation) โดยนายไดมอน ชี้ให้เห็นความแตกต่างว่าอัตราดอกเบี้ยที่เคลื่อนไหวจากระดับ 5% ไปเป็น 7% อาจจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เคลื่อนไหวจาก 3% ไปเป็น 5%
บลูมเบิร์กรายงานว่า หากอัตราดอกเบี้ยของเฟดพุ่งขึ้นแตะระดับ 7% ก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภคชาวอเมริกัน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า มีโอกาส 60% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ตัวเลขดังกล่าวดีกว่าที่นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเร็วที่สุดในปีนี้
ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถใช้วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานจะปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในเดือน ก.ค. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.9% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.2% ในเดือน ก.ค
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนทำให้หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราปรับตัวลง
เอสแอนด์พี โกลบอล รายงานวานนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรปจะสร้างแรงกดดันต่ออันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและธนาคารพาณิชย์ในทวีปยุโรป โดยภาคอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบมากที่สุด สำหรับภาคธนาคารพาณิชย์ แม้คุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มย่ำแย่ลง แต่ภาวะหนี้เสียจะอยู่ในระดับปกติ และยังคาดการณ์ว่า การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้เพื่อการลงทุนในยุโรปจะเพิ่มขึ้นแบบช้าๆ และแตะ 3.75% ภายในเดือน มิ.ย. 2568 จาก 3.4% ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยผลสำรวจว่า ความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ส่งออกของเยอรมนีย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัดในเดือน ก.ย. สาเหตุจากการส่งออกไปยังภูมิภาคหลักๆ ทั้งหมดลดลง โดยคาดการณ์การส่งออกจะปรับตัวลงสู่ระดับ -11.3 จุด ในเดือน ก.ย. จากระดับ -6.5 จุดในเดือน ส.ค.
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐ ขณะที่ Volume การซื้อขายในตลาดเบาบางก่อนที่ตลาดหุ้นจีนจะปิดทำการเนื่องในวันชาติ
ตลาดหุ้นไทยปิดลบโดยตลาดค่อนข้างผันผวน ช่วงเช้าส่วนใหญ่ซื้อขายในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน อย่างไรก็ดี ดัชนีพลิกกลับซื้อขายในแดนลบตลอดช่วงบ่าย และปิดที่ระดับต่ำสุดของวันเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ที่ระดับต่ำกว่า 1,500 จุด โดยยังคงเป็นการปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ปิดปรับตัวลดลง นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทส่งผลให้มีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติกดดันตลาด
มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี
หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับนักลงทุนวิตกว่า เฟดจะยังเดินหน้าในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้ลงมาอยู่ในกรอบตามเป้าหมาย และมีโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอย ส่งผลให้ตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังมีความผันผวน
สรุปภาพรวมตลาด
ต่างประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,618.88 จุด ลดลง 388.00 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,273.53 จุด ลดลง 63.91 จุด หรือ -1.47% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,063.61 จุด ลดลง 207.71 จุด หรือ -1.57%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 447.70 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.61%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,102.27 จุด ลดลง 13.33 จุด หรือ -0.43%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 90.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 16.80 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,919.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ในประเทศ
SET ปิดที่ 1,494.02 ลบ 13.34 จุด (-0.88%) Trading Volume: 55,609.45 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายปานกลาง โดยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.62%) กลุ่มธนาคาร (-1.39%) และกลุ่มไอซีที (-1.34%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 788.62 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดแกว่งตัว 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 1-5 ปี ปิดแกว่งตัว 1 bp
อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-8 bps
IRS SWAP ปิดปรับแกว่งตัว 1-2 bps
นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 41,623.84 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 833.45 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี
คลิก:
KF-CSINCOM
|
KF-SINCOME
|
KFSINCRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ย้อนกลับ
สรุปภาวะตลาด
สรุปภาวะตลาดรายวัน
สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
สรุปภาวะตลาดรายเดือน
Flash Update
ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี
บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง