สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
26/04/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดและตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 1/2567 นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากแรงขายหุ้นที่มีทุนจดทะเบียนสูง หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/2567 ขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% โดยตัวเลข GDP ที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้เป็นการประมาณการครั้งที่ 1
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในไตรมาส 1/2567 พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งสูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่ปรับตัวขึ้น 1.8% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% สูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่เพิ่มขึ้น 2.0%
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 207,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 214,000 ราย
  • คริส ลาร์คิน กรรมการผู้จัดการฝ่ายการซื้อขายและการลงทุนจากบริษัท E*TRADE กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อกลับสูงขึ้น (Stagflation) ซึ่งอาจทำให้เฟดประสบกับความยากลำบากในการดำเนินนโยบายการเงิน ส่วนแนวโน้มในระยะสั้นนั้น เราคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้จะส่งผลให้ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอน
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้
  • บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ คาดการณ์ว่ายอดขายในไตรมาส 2/2567 จะอยู่ในช่วง 3.65 - 3.90 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยค่ากลางของกรอบคาดการณ์ดังกล่าวอยู่ที่ 3.775 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.83 หมื่นล้านดอลลาร์
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซาของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และบรรยากาศการซื้อขายยังถูกกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าคาดของสหรัฐ
  • บริษัท แอดเยน (Adyen) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงินของเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด และนักวิเคราะห์วิตกกับการเก็บค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกเล็กน้อย โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดฟื้นตัวหลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มมุมมองเกี่ยวกับตลาดหุ้นจีน
  • นักวิเคราะห์ของยูบีเอสคาดการณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติจะค่อยๆ กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นจีนผ่านทางโครงการ Stock Connect ในขณะที่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดและสภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจมหภาคของจีนเริ่มฟื้นตัว โดยยูบีเอสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของตลาดหุ้นจีนสู่ระดับ Overweight
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ซื้อขายในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดหุ้นจีนมีความน่าสนใจขึ้นอย่างมาก หลังตลาดปรับตัวสูงขึ้นและสามารถยืนรักษาระดับอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งปัจจัยพื้นฐานอย่าง GDP ไตรมาส1 ขยายตัวสูงกว่าคาดและยังคงสนับสนุนเป้าหมาย GDP Target ของจีนที่ 5% จากหลากหลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาก่อนหน้านี้ รวมถึงกองทุนทั่วโลกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในจีน ทำให้กองทุนในเอเชียมีสัดส่วนในจีนเพิ่มมากขึ้นสูงสุดในรอบ 7 เดือน

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,085.80 จุด ลดลง 375.12 จุด หรือ -0.98%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,048.42 จุด ลดลง 23.21 จุด หรือ -0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,611.76 จุด ลดลง 100.99 จุด หรือ -0.64%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 502.38 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.64%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,052.90 จุด เพิ่มขึ้น 8.08 จุด หรือ +0.27%
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,342.50 ดอลลาร์/ออนซ์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 83.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,364.27 บวก 3.17 จุด (+0.23%) Trading Volume: 41,433.97 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มการแพทย์ (+3.14%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (+0.04%) และกลุ่มพลังงาน (-0.56%) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,796.21 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-4 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1 bp
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 19,129.77 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,390.38 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีน
คลิก: KFACHINA-A | KFCSI300-A  | KF-CHINA | KFHCHINAD | KFACHINSSF | KFACHINRMF | KFCHINARMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน