Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
สรุปภาวะตลาด
>
สรุปภาวะตลาดรายวัน
>
สรุปภาวะตลาดประจำวันที่ 25 เมษายน 2567
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
สรุปภาวะตลาดรายวัน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
25/04/2567
ปัจจัยสำคัญ
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสาน เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีทะยานขึ้นเหนือระดับ 4.67% เมื่อคืนนี้ และได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
ท้อดด์ มอร์แกน ประธานบริษัท Bel Air Investment Advisors กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นไปแล้ว 0.70% และหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นจนถึงระดับ 5% ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างรุนแรงในระยะสั้น
หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 12% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลากล่าวว่า บริษัทอาจเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีราคาถูกเร็วกว่าที่กำหนดไว้ โดยอาจเริ่มดำเนินการในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ปรับตัวลง 0.5% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบท
คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.6% จากเดือนก่อนหน้าในเดือน มี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน ก.พ. ส่วนคำสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ก.พ.
นักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2567 ของสหรัฐในวันนี้ (25 เม.ย.) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ (26 เม.ย.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบหลังจากปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ในช่วงแรก โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มธนาคารที่ร่วงลง หลังนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการ
หุ้นกลุ่มธนาคาร ร่วงลง 1.2% โดยหุ้นธนาคารฮันเดิลสบังเกนทรุด 12.1% หลังเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด และหุ้นธนาคาร SEB ร่วง 3.7% หลังเปิดเผยรายได้จากอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าคาดในไตรมาสแรก
หุ้นกลุ่มการเงิน ร่วง 2% โดยหุ้นออลฟันด์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนของอังกฤษ ร่วง 11% หลังมีรายงานว่า บริษัทยกเลิกการเจรจาเกี่ยวกับแนวโน้มการขายกิจการ หุ้นยูบีเอส ร่วงลง 2.9% หลังผู้บริหารของธนาคารแสดงความวิตกเกี่ยวกับแผนการของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ที่จะออกข้อกำหนดด้านทุนสำรองที่เข้มงวดมากขึ้น
ข้อมูลจาก LSEG (London Stock Exchange Group) บ่งชี้ว่า บริษัท 34 แห่งในดัชนี STOXX 600 รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาแล้ว โดย 61.8% รายงานผลประกอบการสูงเกินคาด เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 54%
ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน สู่ระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนที่ 89.4 ในเดือน เม.ย. โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรปจะประกาศลดดอกเบี้ยและแรงกดดันเงินเฟ้อค่อยๆ ลดลง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีญี่ปุ่นหลังจากที่หุ้นกลุ่มเดียวกันปรับตัวขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนก่อนหน้า (23 เม.ย.) ตลอดจนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบางบริษัทในกลุ่มนี้ ส่งผลให้นิกเกอิฟื้นกลับมาแตะระดับ 38,000 จุดอีกครั้ง
นักลงทุนรอติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์ (26 เม.ย.)
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวก ขณะที่นักลงทุนรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยทางการจีนมีกำหนดเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค. ในวันเสาร์ (27 เม.ย.) และจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน เม.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน เม.ย. ในวันอังคาร (30 เม.ย.)
ตลาดหุ้นไทยปิดบวกโดยซื้อขายในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวสูงขึ้น แต่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี
สัปดาห์นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คือ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดใช้พิจารณากำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก แนะนำทยอยสะสมเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) อยู่เหนือระดับ 4.6% อีกครั้ง เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่ดีหากดอกเบี้ยปรับลดลงตามคาดการณ์
สรุปภาพรวมตลาด
ต่างประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,460.92 จุด ลดลง 42.77 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,071.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด หรือ +0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,712.75 จุด เพิ่มขึ้น 16.11 จุด หรือ +0.10%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 505.61 จุด ลดลง 2.18 จุด หรือ -0.43%
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,460.08 จุด พุ่งขึ้น 907.92 จุด หรือ +2.42%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,044.82 จุด เพิ่มขึ้น 22.84 จุด หรือ +0.76%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 55 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 82.81 ดอลลาร์/บาร์เรรล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 3.70 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 2,338.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ในประเทศ
SET ปิดที่ 1,361.10 บวก 3.64 จุด (+0.27%) Trading Volume: 38,553.81 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (-0.20%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (+0.02%) และกลุ่มพาณิชย์ (+0.93%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 456.32 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 1-5 ปี ปิดแกว่งตัว 1-4 bps
อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
IRS SWAP ปิดแกว่งตัว 1-6 bps
นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 16,216.96 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,634.68 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี
คลิก:
KFSINCFX-A
|
KF-CSINCOM
|
KF-SINCOME
|
KFSINCRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ย้อนกลับ
สรุปภาวะตลาด
สรุปภาวะตลาดรายวัน
สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
สรุปภาวะตลาดรายเดือน
Flash Update
ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี
บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง