สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
23/08/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกลบสลับกันไป เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งในสหรัฐ
  • ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากบริษัท LPL Financial กล่าวว่า การที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงและทำให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภค
  • ตลาดคาดหวังว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้นในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น. ตามเวลาไทย
  • S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารคีย์คอร์ป, โคเมริกา อิงค์, วัลเลย์ เนชันแนล แบงคอร์ป, ยูเอ็มบี ไฟแนนเชียล คอร์ป และแอสโซซิเอทเต็ด แบงก์-คอร์ป ลง 1 ขั้น โดยระบุถึงผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และการโยกย้ายเงินฝากที่เกิดขึ้นทั่วทั้งภาคธนาคาร
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 2.2% สู่ระดับ 4.07 ล้านยูนิตในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 16.6% ในเดือน ก.ค. การชะลอตัวของยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และสต็อกบ้านที่อยู่ในระดับต่ำ โดยสต็อกบ้านลดลง 14.6% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี อยู่ที่ระดับ 1.11 ล้านยูนิต
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยหุ้นชิปนำหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นก่อนการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย ขณะที่หุ้นยูบิซอฟต์ บริษัทผลิตวิดีโอเกมพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เนื่องจากบริษัทแอคติวิชันวางแผนที่จะขายสิทธิการสตรีมมิ่งให้กับยูบิซอฟต์
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ
  • ตลาดมองว่าการตัดสินใจครั้งล่าสุดของธนาคารกลางจีนวานนี้ยังไม่มากพอที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญภาวะเงินฝืด
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ซื้อขายในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

จากตัวเลขทางเศรษฐกิจจีนที่ทยอยประกาศออกมาก่อนหน้า สะท้อนว่าเศรษฐกิจของจีนอยู่ในภาวะชะลอตัว บ่งขี้ถึงอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน และอาจทำจีนเกิดภาวะเงินฝืด

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,288.83 จุด ลดลง 174.86 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,387.55 จุด ลดลง 12.22 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,505.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.28 จุด หรือ +0.06%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 451.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.04 จุด หรือ +0.68%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,120.33 จุด เพิ่มขึ้น 27.36 จุด หรือ +0.88%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 80.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.00 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,926.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,545.60 บวก 19.75 จุด (+1.29%) Trading Volume: 71,930.58 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายปานกลาง โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (0.69%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (0.27%) และกลุ่มพาณิชย์ (3.05%) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 509.91 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
    • นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 40,788.30 ล้านบาท  นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,064.90 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน 
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน