สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
17/11/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกลบผสมผสาน หลังจากบริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปี 2567 และบริษัท วอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยการคาดการณ์ผลกำไรที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • บริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในเดือน ส.ค. - ต.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินบริษัท อยู่ที่ 1.11 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.03 ดอลลาร์ แต่บริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2567 ลงสู่ระดับ 3.87 - 3.93 ดอลลาร์ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.01 - 4.08 ดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์เครือข่ายมีแนวโน้มชะลอตัวลง
  • บริษัท วอลมาร์ท เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2566 ที่ระดับ 1.53 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.52 ดอลลาร์ แต่บริษัทคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2566 จะอยู่ที่ 6.40 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.48 ดอลลาร์
  • พอล นอลเต้ นักวิเคราะห์จากบริษัท Murphy & Sylvest กล่าวว่า ซิสโก้ ซิสเต็มส์ และวอลมาร์ท ถือเป็น "กระดูกสันหลัง" ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมค้าปลีก ตามลำดับ การเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ที่อ่อนแอของทั้งสองบริษัทจึงทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคและแนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25 - 5.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. 2566, ม.ค. 2567 และมี.ค. 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00 - 5.25% ในการประชุมเดือน พ.ค. 2567
  • ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลง และนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันก่อนหน้านี้จากความหวังที่ว่าอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดแล้ว และธนาคารกลางต่าง ๆ จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในที่สุด
  • ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังจากพุ่งขึ้น 2.5% ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ ซึ่งสนับสนุนความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • ยอดส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ต.ค. สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 1.2% โดยได้แรงหนุนจากยอดส่งออกไปสหรัฐ ส่วนยอดนำเข้าลดลง 12.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เทียบกับที่ตลาดคาดว่าอาจลดลง 12.2% โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของราคาพลังงาน ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 6.625 แสนล้านเยน ทางด้านคำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก่อนหน้าในเดือน ก.ย. โดยได้แรงหนุนหลักจากคำสั่งซื้อนอกภาคการผลิต
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ หลังจากจีนเปิดเผยราคาบ้านร่วงลงในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงานในวันนี้ว่า ราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองของจีนลดลง 0.38% ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังทรุดตัวลงรุนแรงมากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลพยายามที่จะฟื้นฟูอุปสงค์ในภาคส่วนดังกล่าวก็ตาม
  • ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าตลาดที่อยู่อาศัยของจีนอยู่ในทิศทางขาลง หลังจาก NBS เปิดเผยเมื่อวันพุธ (15 พ.ย.) ว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ลดลง 9.3% ซึ่งย่ำแย่กว่าในช่วง 9 เดือนแรกที่ปรับตัวลง 9.1% โดยมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ที่รัฐบาลจีนประกาศใช้ในเมืองใหญ่หลายแห่งนับตั้งแต่เดือน ส.ค. นั้น แทบไม่ได้ช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยฟื้นตัวขึ้น และเป็นภาคส่วนที่กำลังฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนในขณะนี้
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ซื้อขายในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน จากแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นแรงในวันก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ดัชนีฟื้นตัวกลับมาปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า ในขณะที่ ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ 

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบเมื่อคืนนี้ และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาหลังจากตลาดปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี แนะนำลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,945.47 จุด ลดลง 45.74 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,508.24 จุด เพิ่มขึ้น 5.36 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,113.67 จุด เพิ่มขึ้น 9.84 จุด หรือ +0.07%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 451.27 จุด ลดลง 3.25 จุด หรือ -0.72%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,050.93 จุด ลดลง 21.91 จุด หรือ -0.71%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 72.90.ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 1,987.30 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,415.34 บวก 0.17 จุด (+0.01%) Trading Volume: 43,028.30 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย
      โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.89%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-0.35%) กลุ่มไอซีที (-0.05%) และกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (-1.79%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,615.42 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1-3 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 2-4 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-5 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1-3 bps   
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 13,898.85 ล้านบาท  นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 69.54 ล้านบาท   
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน 
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน