ปัจจัยสำคัญ 

• ตลาดสหรัฐปิดลบ โดยการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันยังทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือน ส.ค. ในสัปดาห์นี้
• โธมัส ฮาเยส นักวิเคราะห์จากบริษัท Great Hill Capital LLC กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบเกือบ 10 เดือนในวันอังคาร (12 ก.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะยังคงแข็งแกร่งในปีนี้และปีหน้า
• หุ้นออราเคิล ร่วงลง 13.5% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในเดือน มิ.ย. - ส.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ของปีงบการเงินบริษัท อยู่ที่ระดับ 1.245 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.247 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
• ผลประกอบการที่อ่อนแอของออราเคิล รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ ได้ฉุดหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการคลาวด์รายอื่นๆ ร่วงลงด้วย โดยหุ้นอะเมซอน และหุ้นไมโครซอฟท์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 1%
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
• บรรดาเทรดเดอร์ในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ โดยเทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 50% ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 4%
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในสัปดาห์นี้ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีน
• สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า บรรดาเจ้าหนี้ได้อนุมัติให้คันทรี การ์เดน (Country Garden) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ขยายระยะเวลาวันครบกำหนดชำระหนี้หุ้นกู้ในประเทศจำนวน 6 ชุดออกไป 3 ปี หนุนให้ราคาหุ้นบริษัทดังกล่าวพุ่งขึ้นสูงถึง 10%
• SET Index ซื้อขายในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นมาก (+3.19%) โดยปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น สวนทางกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในอาเซียนที่ต่างปิดปรับตัวลดลง

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

สรุปภาพรวมตลาด

• ต่างประเทศ
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,645.99 จุด ลดลง 17.73 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,461.90 จุด ลดลง 25.56 จุด หรือ -0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,773.61 จุด ลดลง 144.28 จุด หรือ -1.04%
  • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 455.40 จุด ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.18%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,137.06 จุด ลดลง 5.72 จุด หรือ -0.18%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 88.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.10 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,935.10 ดอลลาร์/ออนซ์
• ในประเทศ
  • SET ปิดที่ 1,545.50 บวก 4.56 จุด (+0.30%) Trading Volume: 40,984.43 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.23%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-0.06%) และกลุ่มพาณิชย์ (-0.14%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 771.85 ล้านบาท
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-4 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
    • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
    • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 2-4 bps
    • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 2-4 bps
    • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1-2 bps

• ตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี คลิก: KF-CSINCOM | KF-SINCOME | KFSINCRMF
• หุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก คลิก: KFGBRAND-A | KFGBRAND-D | KFGBRANSSF | KFGBRANRMF