สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
03/04/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ซึ่งเป็นการดิ่งลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานสูงกว่าคาด ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.756 ล้านตำแหน่งในเดือน ก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.740 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 8.748 ล้านตำแหน่งในเดือน ม.ค.
  • การพุ่งขึ้นของตัวเลข JOLTS ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.405% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2566 และทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 56.3% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน มิ.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 63.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.8% ในไตรมาส 1/2567
  • นักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน มี.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (5 เม.ย.) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่เพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือน ก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือน มี.ค.
  • นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ (3 เม.ย.) จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน มี.ค. จาก ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และดัชนีภาคบริการเดือน มี.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ส่วนในวันพฤหัสบดี (4 เม.ย.) จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดุลการค้าเดือน ก.พ.
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเงินเฟ้อของเยอรมนีเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
  • ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงมากกว่าคาดในเดือน มี.ค. เนื่องจากราคาพลังงานลดลง และนักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนในวันนี้ (3 เม.ย.)
  • หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ร่วงลง 1.6% หลังปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยหุ้นซิกฟรีด โฮลดิง ซึ่งเป็นบริษัทยาของสวิตเซอร์แลนด์ ร่วง 5.4% หลังนายโวล์ฟกัง วีนันด์ ซีอีโอจะลาออกไปร่วมงานกับบริษัทลอนซา
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนลดลงสู่ 46.1 ในเดือน มี.ค. จาก 46.5 ในเดือน ก.พ. สูงกว่าตัวเลขที่ประเมินในเบื้องต้นที่ 45.7
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวก จากแรงช้อนซื้อหุ้นถูกหลังตลาดร่วงหนักเมื่อวันก่อนหน้า (1 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม แรงซื้อในตลาดชะลอตัวลง เนื่องจากบางส่วนกังวลว่ารัฐบาลอาจเข้าแทรกแซงตลาดเงินเพื่อหยุดการอ่อนค่าของเงินเยน
  • นายมาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ กล่าวว่า นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นว่าการแข็งค่าของเงินเยนอย่างรวดเร็วที่เกิดจากการแทรกแซงของรัฐบาลอาจทำให้ดัชนีนิกเกอิร่วงลง
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบเล็กน้อย หลังจากปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันจันทร์ (1 เม.ย.) ขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มี.ค. ของจีน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.8 ในเดือน มี.ค. จากระดับ 49.1 ในเดือน ก.พ. และดัชนี PMI ภาคบริการเดือน มี.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.0 จากระดับ 51.4 ในเดือน ก.พ. ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตและภาคบริการของจีนมีการขยายตัว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาท่าทีของรัฐบาลจีนว่าจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่
  • ตลาดหุ้นไทยปิดลบ แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยส่วนใหญ่ซื้อขายในแดนลบ สิ้นวันดัชนีปิดทรงตัวจากวันก่อนหน้า เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐและจีนออกมาแข็งแกร่ง

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง บวกกับตัวเลขเงินเฟ้อที่เปิดเผยก่อนหน้ายังสูงกว่าเป้าหมายที่เฟดต้องการ ทำให้เชื่อได้ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมอีกสักระยะ เรายังคงแนะนำทยอยสะสมกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก โดยพิจารณาลงทุนเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) อยู่ในโซนระดับ 4.10% ถึง 4.30% ซึ่งคาดว่ากองทุนจะได้ประโยชน์และผลตอบแทนที่ดี เมื่อเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,170.24 จุด ลดลง 396.61 จุด หรือ -1.00%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,205.81 จุด ลดลง 37.96 จุด หรือ -0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,240.45 จุด ลดลง 156.38 จุด หรือ -0.95%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 508.57 จุด ลดลง 4.10 จุด หรือ -0.80%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,838.91 จุด เพิ่มขึ้น 35.82 จุด หรือ +0.09%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดที่ระดับ 3,074.96 จุด ลดลง 2.42 จุด หรือ -0.08%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 85.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 24.70 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 2281.8 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,379.46 ลบ 0.02 จุด (-0.00%) Trading Volume: 38,240.09 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (-0.69%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (+0.55%) และกลุ่มพาณิชย์ (-0.69%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,580.71 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 2-4 bps     
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 45,586.95 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,793.30 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี
คลิก:
KFSINCFX-A | KF-CSINCOM | KF-SINCOME | KFSINCRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน