Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
สรุปภาวะตลาด
>
สรุปภาวะตลาดรายวัน
>
สรุปภาวะตลาดประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2567
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
สรุปภาวะตลาดรายวัน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
02/05/2567
ปัจจัยสำคัญ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกลบสลับกันไป โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมครั้งล่าสุด และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ดี การร่วงลงของหุ้นบริษัทผลิตชิปได้ฉุดดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25 - 5.50% หลังเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดได้เน้นย้ำถึงความกังวลว่าข้อมูลที่มีการเปิดเผยนับตั้งแต่ต้นปี 2567 นั้น ไม่ได้ทำให้เฟดมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า แม้ว่าเฟดยังคงมุ่งเน้นในเรื่องการฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% แต่เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11 - 12 มิ.ย.
นายพาวเวลยังกล่าวอีกว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ โดยเขาระบุถึงข้อมูลที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลงแตะระดับระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
นายไรอัน เดทริก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของบริษัท Carson Group กล่าวว่า "พาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณที่แข็งกร้าว แม้เขารู้ว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหา แต่เขายังคงมีมุมมองเป็นบวกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า และสิ่งที่เป็นปัจจัยหนุนตลาดคือการที่เขาส่งสัญญาณว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป"
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 4.6% หลังการแถลงข่าวของนายพาวเวล ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลของนักลงทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนกังวลว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 325,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.488 ล้านตำแหน่งในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564
London Stock Exchange Group (LSEG) ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัท 310 แห่งในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว โดย 77% ของบริษัทเหล่านี้รายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาด
เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาส 1/2567 ขยายตัว 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และโต 0.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากในไตรมาส 4/2566 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และโต 0.1% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่าอาจขยายตัว 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และขยายตัว 0.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยูโรโซน ในเบื้องต้นเพิ่มขึ้น 2.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน เม.ย. ตามคาด ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงสู่เพิ่มขึ้น 2.7% จาก 2.9% ในเดือนก่อนหน้า
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.8% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 6.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน มี.ค. ในขณะที่ยอดค้าปลีกลดลง 1.2% จากเดือนก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 1.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน มี.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนที่จัดทำโดยทางการ ลดลงสู่ 50.4 ในเดือน เม.ย. จาก 50.8 ในเดือน มี.ค. และ PMI นอกภาคการผลิตที่จัดทำโดยทางการลดลงสู่ 51.2 จาก 53.0 บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ในขณะที่ PMI ภาคการผลิตที่จัดทำโดยไฉซินเพิ่มขึ้นสู่ 51.4 จาก 51.1 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงขยายตัว
ตลาดหุ้นไทยวันที่ 30 เม.ย. แกว่งตัวในกรอบแคบๆ แดนบวกตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวสูงขึ้น จากแรงซื้อกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้แรงหนุนจากคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจทรงตัวที่ระดับสูงยาวนานกว่าที่ประเมินไว้ ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ
ธปท. รายงานเศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค. ชะลอตัวลง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวชะลอลงหลังจากเร่งตัวไปในช่วงก่อนหน้า ในขณะที่ภาคการผลิตและการส่งออกยังคงอ่อนแอ เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกอ่อนแอ
มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี
จากการที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่คาดการณ์ อีกทั้งยังส่งสัญญานไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยดังกล่าวน่าจะลดความกังวลให้กับตลาด แต่อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อยังคงขาดความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายที่ 2% ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวอาจจจะกลับมาสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นเป็นระยะๆ
สรุปภาพรวมตลาด
ต่างประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,903.29 จุด เพิ่มขึ้น 87.37 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,018.39 จุด ลดลง 17.30 จุด หรือ -0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,605.48 จุด ลดลง 52.34 จุด หรือ -0.33%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 504.32 จุด ลดลง 0.58 จุด หรือ -0.11%
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 2,311.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 3.58% ปิดที่ 79.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในประเทศ
SET ปิดที่ 1,367.95 บวก 5.98 จุด (+0.44%) Trading Volume: 44,917.29 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.19%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (+0.32%) และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (+2.00%) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 975.44 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,326.20 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,553.21 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
หุ้นทั่วโลก
คลิก:
KFGLOBAL-A
|
KFGLOBFX-A
|
KFWINDX-A
หุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก
คลิก:
KFGBRAND-A
|
KFGBRAND-D
|
KFGBRANSSF
|
KFGBRANRMF
ตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี
คลิก:
KFSINCFX-A
|
KFSINCFX-R
|
KF-CSINCOM
|
KF-SINCOME
|
KFSINCRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ย้อนกลับ
สรุปภาวะตลาด
สรุปภาวะตลาดรายวัน
สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
สรุปภาวะตลาดรายเดือน
Flash Update
ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี
บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง