ปัจจัยสำคัญ 

• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแบบผสมผสาน โดยดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
• ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 4.2% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน
• กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มสินค้าหรูหรานั้นได้บดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มการเงิน ขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ หลังจากจีนเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอาจเป็นไปอย่างล่าช้า
• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.7 จากระดับ 49.3 ในเดือน ก.ค. แต่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 5
• คันทรี การ์เดน (Country Garden) หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีนเปิดเผยว่า บริษัทอาจผิดนัดชำระหนี้ และแสดงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจต่อ หลังจากบริษัทขาดทุนเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งเป็นตัวเลขขาดทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์
• สำนักงานสถิติแห่งชาติอินเดีย (NSO) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับช่วงเดือน เม.ย.- มิ.ย. 2566 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2566 - 2567 ของอินเดีย โดยเศรษฐกิจอินเดียมีการขยายตัว 7.8% ในไตรมาสดังกล่าว
• SET Index ซื้อขายในแดนลบตลอดทั้งวันและปิดปรับตัวลดลง นำโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังรัฐบาลชุดใหม่มีนโยบายลดค่าไฟและน้ำมัน รวมถึงข่าว JKN ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ส่งผลให้ตลาดกังวลมากขึ้นว่าอาจมีบริษัทที่จะผิดนัดชำระหนี้เพิ่มเติม ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นเป็นผลมาจากการปรับน้ำหนักของ MSCI ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปิดปรับตัวลดลงเช่นกัน

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

สรุปภาพรวมตลาด

• ต่างประเทศ
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,721.91 จุด ลดลง 168.33 จุด หรือ -0.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,507.66 จุด ลดลง 7.21 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,034.97 จุด เพิ่มขึ้น 15.66 จุด หรือ +0.11%
  • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 458.19 จุด ลดลง 0.94 จุด หรือ -0.20%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,119.88 จุด ลดลง 17.26 จุด หรือ -0.55%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 83.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 1,965.90 ดอลลาร์/ออนซ์
• ในประเทศ
  • SET ปิดที่ 1,565.94 ลบ 10.73 จุด (-0.68%)
    Trading Volume: 86,353.73 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายมาก โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-2.09%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-0.60%) กลุ่มพาณิชย์ (+0.38%) และกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (-0.88%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,126.84 ล้านบาท
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดแกว่งตัว 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
    • อายุ 1-5 ปี ปิดแกว่งตัว 1 bp
    • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
    • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1 bp
    • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1-3 bpS

• ตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี คลิก: KF-CSINCOM | KF-SINCOME | KFSINCRMF
• หุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก คลิก: KFGBRAND-A | KFGBRAND-D | KFGBRANSSF | KFGBRANRMF