ปัจจัยสำคัญ 

• ตลาดสหรัฐปิดบวก ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยราคาหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ทะยานขึ้น 13.93% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 2.865 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.765 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เมตาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพียง 1.1% ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0% เนื่องจากภาคธุรกิจปรับลดการลงทุนในการสต็อกสินค้า ซึ่งบดบังตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี แม้ว่าตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือน พ.ค.
• กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 249,000 ราย
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการเชิงบวกของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะรายงานผลประกอบการของดอยซ์แบงก์และบาร์เคลยส์ ซึ่งช่วยบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับสถานะของภาคธนาคาร
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกเนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เกี่ยวกับแนวทางในการสร้างสันติภาพ
• สำนักข่าว CCTV ของทางการจีนรายงานว่า ปธน.สี กล่าวต่อปธน.เซเลนสกี ว่า จีนสนับสนุนการเจรจาสันติภาพ และจะใช้ความพยายามเพื่อให้มีการหยุดยิงโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ จีนจะส่งผู้แทนพิเศษไปยังยูเครนเพื่อจัดการเจรจากับทุกฝ่ายในการแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น
• กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 21.4% ในไตรมาส 1 (เดือน ม.ค.-มี.ค.) ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 12% และสวนทางกับไตรมาส 1 ปีที่แล้วซึ่งมีการขยายตัว 8.5%
• BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน เปิดเผยว่า กำไรดิ่งลง 43.5% สู่ระดับ 4.13 พันล้านหยวน หลังจากกำไรพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 ไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยกำไรในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ระดับ 7.3 พันล้านหยวนโดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามราคาของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
• นักวิเคราะห์คาดการณ์กันในวงกว้างว่า นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการคนใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะไม่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินนัดแรกนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งของเขา ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 เม.ย.
• สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า ธนาคารกลางอาร์เจนตินาได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10% สู่ระดับ 91% ในวันนี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และรักษาเสถียรภาพของค่าเงินเปโซ
• SET Index ซื้อขายในแดนลบตลอดทั้งวัน และปิดปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก โดยเป็นผลจากแรงขายหุ้น DELTA (-16.52%) ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.32%) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (-14.90%) และกลุ่มธนาคาร (-0.49%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 252.44 ล้านบาท

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

สรุปภาพรวมตลาด

• ต่างประเทศ
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,826.16 จุด พุ่งขึ้น 524.29 จุด หรือ +1.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,135.35 จุด เพิ่มขึ้น 79.36 จุด หรือ +1.96% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,142.24 จุด พุ่งขึ้น 287.89 จุด หรือ + 2.43%
  • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 464.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด หรือ +0.18%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,285.88 จุด เพิ่มขึ้น 21.78 จุด หรือ +0.67%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 74.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,999 ดอลลาร์/ออนซ์
• ในประเทศ
  • SET ปิดที่ 1,531.23 ลบ 12.72 จุด (-0.82%)
    Trading Volume: 43,638.05 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-4 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
    • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
    • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
    • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-7 bps
    • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 2-3 bps