สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
12/04/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดสหรัฐปิดแบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก ส่วนดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลบ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2566 ของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
  • ไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากบริษัท Carson Group กล่าวว่า ดาวโจนส์ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มวัสดุ และกลุ่มขนส่ง โดยแรงซื้อดังกล่าวถือเป็นสัญญาญที่ดีว่านักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจ
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) โดยคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วง 5 ปีข้างหน้าที่ระดับ 3% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะกลางที่ต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2533
  • ส่วนในระยะสั้น IMF คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 และ 2567 ที่ระดับ 2.8% และ 3% ตามลำดับ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ม.ค.ที่ระดับ 2.9% และ 3.1% โดยได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ผลกระทบจากการทรุดตัวในภาคการเงิน การชะลอตัวของตลาดแรงงาน และปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน และการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกและแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นปรับตัวขึ้น 3.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในรอบกว่า 4 เดือน เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนราคาโลหะพื้นฐานและโลหะมีค่า ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ
  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบอล รีเสิร์ช (BofA Global Research) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะหดตัวในไตรมาสที่ 2/2566 ตามข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่บอกเป็นนัยว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือน ก.พ. ที่ปรับตัวขึ้น 1% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1%
  • ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวลง 2.5% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงติดต่อกันเดือนที่ 6 และเป็นการปรับตัวลงมากกว่าเดือน ก.พ. ที่ลดลงเพียง 1.4%
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยในการประชุมติดต่อกัน 2 ครั้ง และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากเงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ในขณะที่ BOK มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
  • SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบๆทั้งในแดนบวกและลบ โดยปิดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (+1.34%) จากความคาดหวังต่อผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้ ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (+0.15%) และกลุ่มพาณิชย์ (+0.47%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 50.98 ล้านบาท

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ติดตามตัวเลข CPI ของสหรัฐซึ่งจะประกาศวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่ามีโอกาสที่จะสูงกว่าเดือนก่อนหน้า

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,684.79 จุด เพิ่มขึ้น 98.27 จุด หรือ +0.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,108.94 จุด ลดลง 0.17 จุด หรือ -0.004% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,031.88 จุด ลดลง 52.48 จุด หรือ -0.43%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 461.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.85 จุด หรือ +0.62%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,313.57 จุด ลดลง 1.79 จุด หรือ -0.054%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 81.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 15.20 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 2,019.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,597.10 บวก 3.97 จุด (+0.25%)
      Trading Volume: 36,038.63 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิด ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดไม่เปลี่ยนแปลง
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1-12 bps
ที่มา : Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9

กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก
คลิก: KFGBRAND-A | KFGBRAND-D | KFGBRANSSF | KFGBRANRMF 
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน