Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
สรุปภาวะตลาด
>
สรุปภาวะตลาดรายวัน
>
สรุปภาวะตลาดประจำวันที่ 8 มีนาคม 2566
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
สรุปภาวะตลาดรายวัน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
08/03/2566
ปัจจัยสำคัญ
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลดลงหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟด
นายพาวเวลได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้าย (Terminal Rate) ของเฟดจะอยู่สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และหากข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่าเฟดควรคุมเข้มนโยบายการเงินให้เร็วขึ้น เฟดก็จะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงหลังจากแตะจุดสูงสุดในปีที่แล้ว แต่กระบวนการที่จะทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับเป้าหมาย 2% ยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกลและไม่ราบรื่น และภารกิจในการต่อสู้เงินเฟ้อของเฟดยังคงไม่สิ้นสุด โดยเฟดจำเป็นที่จะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังจากนายพาวเวลเสร็จสิ้นการแถลงต่อคณะกรรมาธิการฯวุฒิสภา นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันจันทร์ที่ระดับ 31%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีซึ่งเป็นพันธบัตรที่สะท้อนถึงการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น พุ่งขึ้นแตะระดับ 5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2550 ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อหุ้นเติบโต (Growth Stocks) โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อีกทั้งต้องพึ่งพาผลกำไรและการเติบโตในอนาคต
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยปรับตัวลงวันเดียวมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแสดงความเห็นสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือน มี.ค. และ พ.ค. ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยแตะระดับประมาณ 4% ภายในเดือน ก.ค. โดย ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3.0% แล้วนับตั้งแต่เดือน ก.ค.
ยอดค้าปลีกของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้าในเดือน ม.ค. หลังจากลดลง 1.7% ในเดือน ธ.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 1.0%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังจากจีนกำหนดเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้ต่ำกว่าความคาดหมายของตลาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานการส่งออกและนำเข้าของจีนที่ปรับตัวลงในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ.
ยอดส่งออกของจีนในเดือน ม.ค. - ก.พ. ลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากลดลง 9.9% ในเดือน ธ.ค. และดีกว่าที่ตลาดคาดว่าอาจลดลง 9.4% โดยยอดส่งออกลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ท่ามกลางอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอ ส่วนยอดนำเข้าลดลง 10.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากลดลง 7.5% ในเดือน ธ.ค. และต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าอาจลดลง 5.5% โดยยอดนำเข้าลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเช่นกัน ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้า 1.169 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ซื้อขายในแดนบวกตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลดลง 8 วันติดต่อกัน รวมถึงได้แรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อของไทยที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้ตลาดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยอาจปรับขึ้นอีกไม่มาก ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปิดปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลง 0.12% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.79% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.30% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 5.02% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ม.ค. เนื่องจากราคาอาหารสดลดลงจากเดือนก่อนหน้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.11% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 1.93% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.08% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.04% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ม.ค.
มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี
จากถ้อยแถลงของนายพาวเวลที่กล่าวถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่งมากกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้เฟดอาจต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยาวนานมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ จนกว่าเงินเฟ้อจะกลับมาจนถึงเป้าหมายที่ 2% ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงนี้จะยังคงมีความผันผวน แต่ในขณะเดียวกันถือว่าเป็นโอกาสอันดีในการทยอยสะสมหุ้นในพอร์ตการลงทุน
สรุปภาพรวมตลาด
ต่างประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,856.46 จุด ร่วงลง 574.98 จุด หรือ -1.72%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,986.37 จุด ลดลง 62.05 จุด หรือ -1.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,530.33 จุด ร่วงลง 145.40 จุด หรือ -1.25%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 460.60 จุด ลดลง 3.58 จุด หรือ -0.77%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,285.10 จุด ลดลง 36.93 จุด หรือ -1.11%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 77.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 34.60 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 1,820 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ปีนี้
ในประเทศ
SET ปิดที่ 1,618.51 บวก 11.63 จุด (+0.72%) Trading Volume: 57,545.50 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มไอซีที (+0.21%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (+0.92%) และกลุ่มธนาคาร (+0.37%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,368.92 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-6 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1-3 bps
อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 3-5 bps
อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-10 bps
IRS SWAP ปิดปรับลดลง 5-10 bps
นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 55,179.97 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 7,441.86 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
หุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก
คลิก:
KFGBRAND-A
|
KFGBRAND-D
|
KFGBRANSSF
|
KFGBRANRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ย้อนกลับ
สรุปภาวะตลาด
สรุปภาวะตลาดรายวัน
สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
สรุปภาวะตลาดรายเดือน
Flash Update
ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี
บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง