อยากเกษียณลั้นลา... รอช้าไม่ได้ กูรูแนะให้ โดย ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์
อยากเกษียณลั้นลา... รอช้าไม่ได้
โดย ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ (รัก) Facebook: Atchara Yomsin
คุณอยากทำอะไรในวัยเกษียณ? เคยคิดไหมค่ะ? คุณมองเห็นตัวเองกำลังทำอะไร? อยู่ที่ไหน? ลองจินตนาการ วาดภาพอนาคตวัยเกษียณออกมาดูให้ชัดๆ นะคะ... คุณจะใช้เวลาที่มีมากมายไปทำอะไร... เดินสายท่องเที่ยวทั่วไทยกับกลุ่มก๊วนเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยประถม ร้องเพลงคาราโอเกะกับเพื่อนร่วมงานที่เกษียณอายุพร้อมกัน เรียนโยคะเพื่อเตรียมเป็นครูสอนโยคะ นั่งอ่านหนังสือจิบกาแฟสบายๆ ในสวนหลังบ้าน เล่นกับหลานสาวตัวน้อยๆ ในวัยช่างพูดช่างคุย ไปเป็นครูอาสาสมัครบนดอยที่ห่างไกล ทัวร์ทำบุญไหว้พระ ปฏิบัติธรรม ช้อป ชิม แชร์อยู่ริมแม่น้ำโขง ฯลฯ
คุณมีแผนแบบเห็นภาพชีวิตในวัยเกษียณแล้วหรือยัง? ภาพชีวิตในบั้นปลายแจ่มชัดเพียงไร... เมื่อเทียบกับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น... ภาพที่อยากจะให้เป็นเหล่านั้นจะเป็นจริงได้หรือไม่? การเกษียณจากการทำงานไม่ใช่เรื่องไกลตัว การวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรรีบทำ เพราะเวลาล่วงผ่านไปทุกๆ วัน เพราะการวางแผนการเงินเป็นเรื่องของ ระยะเวลา (Time) ไม่ใช่ จังหวะเวลา (Timimg) จึงไม่ต้องรอฤกษ์งามยามดี แต่ควรเริ่ม “ทำทันที”...ยิ่งเริ่มเร็ว จะยิ่งได้เปรียบ เพราะระยะเวลา คือ ปัจจัยสำคัญในการเพิ่มมูลค่าของเงิน..
ทั้งนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่าปวดใจ ก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ “เกษียณทุกข์” เพราะ “แก่ก่อนรวย” เพราะ แก่เร็วแต่รวยช้า... ข้อมูลจากรายงานการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2550 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ผู้สูงอายุไทยมากกว่าหนึ่งในสามไม่มีเงินออมสำหรับวัยเกษียณ และผู้สูงอายุประมาณ 53% มีเงินออมประมาณ 200,000 บาท ซึ่งถ้าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณสัก 20 ปี เท่ากับจะมีเงินใช้จ่ายเพียงวันละ 27 บาท!!! เกิดอะไรขึ้นกับผู้สูงอายุเหล่านี้...ท่านทำงานหนักมาตลอดชีวิต สุดท้ายกลับไม่ได้ใช้ชีวิตสบายๆ ในวัยเกษียณ... คนไทยไม่ใช่หาเงินไม่เก่ง คนไทยจำนวนมากหาเงินเก่ง ทำงานหนักตลอดชีวิต... ใครไม่เชื่อลองคำนวณเล่นๆ ดูว่าจากการทำงานที่ผ่านมาท่านหาเงินได้แล้วกี่บาท? มีเงินผ่านมือผ่านบัญชีไปแล้วเท่าไร? และเหลือเงินไว้ให้เก็บเกี่ยวในอนาคตเท่าไร? ทด ทด ทด....ทดเสร็จแล้ว หลายคนคงตกใจที่ทำงานหาเงินมาได้ไม่น้อย มีเงินผ่านมือผ่านบัญชีไปแล้วมหาศาล.... แต่ที่เหลืออยู่ ทำไมมันช่างน้อยนิด (หลายคนอาจจะไม่เหลือเลย) !!!
คำถามสำคัญ ก็คือ เราจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร? หาเงินได้เท่าไรก็ใช้ไปเท่านั้น ใช้เงินเดือนชนเดือน รอๆๆๆ เดี๋ยวเดือนหน้าค่อยว่ากันใหม่ เดี๋ยวเงินเดือนขึ้นค่อยวางแผนเก็บเงิน เดี๋ยวอีกสักสี่ห้าปีค่อยว่ากัน เดี๋ยวรอโบนัสออกค่อยเริ่มออม เดี๋ยวผ่อนอันนี้เสร็จค่อยเริ่มใหม่ เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว.... ผัดวันประกันพรุ่ง...จนชินชา....
ใครอยากเกษียณลั้นลา รอช้าไม่ได้... ต้องคิดสักนิดว่า... จะลั้นลาหลังเกษียณสักกี่เดือน? หากเราเกษียณอายุการทำงานตอนอายุ 60 ปี และจะอยู่ไปจนอายุ 85 ปี...ทด ทด ทด ทดเลขได้ 25 ปี หรือ 300 เดือน หลังเกษียณที่อยากจะลั้นลาจะต้องใช้เงินเดือนละกี่บาท? ทั้งนี้ สำนักสถิติแห่งชาติสำรวจพบว่า ในปี 2558 ครัวเรือนไทยใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 21,157 บาท คิดเร็วๆ แบบไม่ต้องปวดหัวมากมาย หากอ้างอิงตัวเลขค่าใช้จ่ายตัวนี้ เราต้องมีเงินเตรียมไว้เพื่อการเกษียณประมาณ 6.35 ล้านบาท (21,157 x 300 เดือน) !!!
เพื่อให้ได้เกษียณลั้นลาตามที่ฝัน สิ่งที่ต้องทำก็คือ วางแผนการเงิน เพื่อให้เงินที่มีวันนี้และเงินที่จะมีเข้ามาในวันหน้า พอใช้จ่ายตลอดช่วงชีวิตในวัยเกษียณ เพียงคิดให้ชัดๆ ว่า ณ วันเกษียณต้องการมีเงินก้อนจำนวนเท่าไร แล้ว ณ วันนั้น เราจะมีเงินจากไหนบ้าง จำนวนเท่าใด เพียงพอหรือไม่ ยังขาดเหลืออีกกี่บาท... จากนั้นให้คิดย้อนกลับมาว่า แล้ววันนี้จะต้องทำอย่างไร ต้องออมเงินเพิ่มเดือนละกี่บาท ต้องสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยปีละกี่เปอร์เซ็นต์ จากนั้นให้มองหาทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสม โดยลองประเมินตนเองดูว่าน่าจะรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงไร... โชคดีที่ปัจจุบันมีทางเลือกมากมายให้กระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือ กองทุนรวม ซึ่งบริหารการลงทุนโดยมืออาชีพที่มีข้อมูล มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ในปัจจุบันมีกองทุนรวมให้เลือกมากมายหลายร้อยกอง โดยกองทุนรวมที่น่าสนใจเหมาะแก่การลงทุนระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ ก็คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) ที่เน้นให้ลงทุนยาวๆ ไปจนถึงอายุ 55 ปี อีกกองทุนที่น่าสนใจไม่แพ้กันได้แก่ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long-term Equity Fund: LTF) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นอย่างน้อย 65% การลงทุนในกองทุน LTF จึงควรเน้นลงทุนระยะยาว ที่สำคัญเงินลงทุนในกองทุนรวมทั้งสองประเภทนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์ช่วยให้ประหยัดภาษีได้ตลอดทางที่ลงทุน....
หลักง่ายๆ ในการเลือกกองทุนรวม RMF และ LTF ก็คือให้เลือกกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ มีความเป็นมืออาชีพ และเพื่อให้เกิดการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสมอาจจะเลือกลงทุนมากกว่า 1 กองหรือเลือกกองทุนที่มีนโยบายกระจายการลงทุนหลากหลาย เช่น ใครที่ยอมรับความเสี่ยงได้มากหน่อยอาจจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพดีทั้งในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นต่างประเทศ หรือกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลางผสมผสานกันไป หรือกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในหุ้นดีมีคุณภาพทั่วโลก
ส่วนใครที่ประเมินตัวเองแล้วพบว่ายอมรับความเสี่ยงได้บ้างแต่ไม่มากนัก อาจจะเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพไว้บ้าง ซึ่งปัจจุบันมีกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศมีมากมายให้เลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าถ้าคาดหวังผลตอบแทนสูง (Expected return) ก็ต้องยอมรับความเสี่ยง (Risk) ที่สูงด้วยเสมอ สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากหรือน้อยเพียงใด... มีวิธีง่ายๆ คือปรึกษาผู้รู้ ซึ่งผู้รู้ที่ประจำอยู่การที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ล้วนเต็มอกเต็มใจพร้อมให้ข้อมูลและคำแนะนำอย่างเต็มที่... ใครคำนวณแล้ว รู้สึกว่าสถานการณ์ทางการเงินในอนาคตยังไม่ชัดเจนนัก ยังไม่แน่ใจว่าจะเกษียณลั้นลาได้หรือไม่ ให้เริ่มศึกษาและเริ่มลงทุนทันที เพราะหากเราลงมือทำทันที โอกาสดีๆ ในชีวิตจะเริ่มเดินหน้ามาหาเรา
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LTF | RMF และโปรโมชั่น คลิกที่นี่
ย้อนกลับ