Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
วางแผนการลงทุน
>
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
>
ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจหรือไม่
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจหรือไม่
โดย ดร. ฐนิตพงศ์ ชื่นภิบาล
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน บลจ. กรุงศรี จำกัด
ในปี 2561 ที่ผ่านมานี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 10.82% และดัชนีผลตอบแทนรวมปรับลดลง 8.08% โดยที่ดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,838.96 จุด ในวันที่ 24 มกราคม 2561 แต่ปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดให้ตลาดหุ้นไทยร่วงลง ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ยังคงเป็นไปในเชิงบวก โดยแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนยังคงแข็งแกร่ง จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มดีขึ้น (สังเกตได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาหนาตา) ในขณะที่การส่งออกในเดือนธันวาคมลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนจากผลของฐานสูง
ในปีที่ผ่านมา การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงส่งผลให้พีอีเรโชของตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นปี 2561 อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี (ข้อมูลจากบลูมเบิร์ก) บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยมีราคาถูกที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ในขณะที่ ตลาดหุ้นหลักทั่วโลกต่างมีค่าพีอีเรโชอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายปีเช่นกัน โดยสาเหตุหลักของการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงเป็นเรื่องของความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ซึ่งก่อให้เกิดความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นทั่วโลกจึงตอบรับความไม่แน่นอนนี้ในเชิงลบ
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกทยอยปรับตัวดีขึ้น จากการที่สหรัฐฯและจีนมีการพบปะเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 – 8 มกราคม และขยายระยะเวลาการเจรจาเพิ่มอีก 1 วันในวันที่ 9 มกราคม พร้อมทั้งมีสัญญาณเชิงบวกจากทั้งทางฝั่งสหรัฐฯและจีนว่าการเจรจาดำเนินไปได้ด้วยดี และน่าจะได้ข้อสรุปที่ดี ผิดจากที่ก่อนหน้านี้ซึ่งมักจะมีแต่ข่าวเชิงบวกจากทางสหรัฐฯเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่าการเจรจาการค้าในครั้งนี้น่าจะได้ผลในเชิงบวก และช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกได้มาก
ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ถึงแม้หลายฝ่ายมองว่าเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในต่างจังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับต่ำ แต่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 เพิ่มขึ้นถึง 13.27% และนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/61 จะออกมาดี บ่งชี้ว่าในภาพรวมแล้วเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดี สอดคล้องกับตัวเลขการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวในระดับสูง
การที่ตลาดหุ้นไทยร่วงลงในปีที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยภายนอก ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีค่าพีอีเรโขต่ำที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ในขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังคงมีแนวโน้มเติบโตดี ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจของไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง โครงการลงทุนของภาครัฐยังคงสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยเกือบ 3 แสนล้านบาท ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอาจมีการถือครองหุ้นไทยในระดับที่ต่ำเกินไป ซึ่งอาจต้องกลับมาถือครองหุ้นไทยมากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ หลังจากที่ไทยมีการเลือกตั้งแล้ว อาจจะมีเงินทุนไหลเข้าจากกองทุนบางประเภทที่มีนโยบายว่าจะไม่ลงทุนในประเทศที่ไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง กอปรกับการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้มีแนวโมที่เงินลงทุนจะไหลกลับเข้าสู่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงไทยด้วย ดังนั้น ผลกระทบที่อาจเกิดจากการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติจึงมีจำกัด
ในส่วนของปัจจัยภายนอก ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีแนวโน้มที่จะได้รับการแก้ไขไปในทางที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น เป็นผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ปัญหากรณีที่สหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไป นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีขึ้นในอนาคต แต่อาจไม่สร้างความกังวลมากเท่ากับความขัดแย้งทางการค้ากับจีน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 1,700 – 2,000 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าระดับดัชนีในปัจจุบันพอสมควร สะท้อนว่านักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปีนี้ โดยคาดว่าผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเติบโตราว 8 – 12% ซึ่งหากไม่มีปัจจัยลบรุนแรงเข้ามากระทบบรรยากาศการลงทุน นักลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการลงทุนในหุ้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน และสามารถรับความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้หากตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดครับ
ย้อนกลับ
วางแผนการลงทุน
เริ่มต้นการลงทุน
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
วางแผนเพื่อลดหย่อนภาษี
แบบทดสอบระดับความเสี่ยง
คำนวณเงินลงทุนใน SSF
คำนวณเงินลงทุนใน RMF
คำนวณเงินลงทุนใน Thai ESG
@ccess Mobile Application
ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง