Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
วางแผนการลงทุน
>
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
>
ตลาดหุ้นสหรัฐจะไปต่อไหม
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
ตลาดหุ้นสหรัฐจะไปต่อไหม
ดร. ฐนิตพงศ์ ชื่นภิบาล
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน บลจ. กรุงศรี จำกัด
ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564 ดัชนี S&P500 ของสหรัฐปรับตัวขึ้นมา 22.21% จากราคาปิดเมื่อสิ้นปี 2563 โดยให้อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 28.24% และย้อนหลัง 5 ปีที่ 107.46% ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐในช่วงเดียวกันให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 17.00% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 23.44% และย้อนหลัง 5 ปีที่ 91.22% และดัชนีแนสแด็กให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 20.17% ย้อนหลัง 1 ปีที่ 27.80% และย้อนหลัง 5 ปีที่ 190.66% โดยดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดในโลก โดยข้อมูลจาก www.worldometers.info ระบุว่า ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564 สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่ประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ต่ำกว่า 2% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้น สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐจึงเลวร้ายกว่าไทยมาก แต่ทำไมตลาดหุ้นสหรัฐจึงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และเศรษฐกิจสหรัฐจึงฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง?
การเร่งฉีดวัคซีนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้สหรัฐสามารถกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้
โดยข้อมูลจาก ourworldindata.org ระบุว่า ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564 มีชาวอเมริกันได้รับวัคซีนแล้วประมาณ 53% ของประชากรทั้งหมด อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยอื่นๆที่สำคัญที่ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดในรอบหลายๆปี
ในแง่ของโครงสร้างเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 2/3 ของจีดีพีสหรัฐ เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ได้ส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ เห็นได้จากข้อมูลในไตรมาส 2/64 การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นถึง 11.9%
ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ จากการที่ชาวอเมริกันจำนวนมากต้องหันมาทำงานจากที่บ้าน กลับส่งผลให้ชาวอเมริกันใช้จ่ายมากขึ้น เช่น ซื้อบ้านขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพราะต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น และเมื่อมีการซื้อบ้านก็จะต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ภายในบ้านเพิ่มขึ้น รวมถึงซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆเพื่อใช้ในการทำงาน นอกจากนี้ ชาวอเมริกันจำนวนมากยังหันมาซื้อรถยนต์ส่วนตัวแทนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการติดเชื้อ การที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านยังส่งผลให้ชาวอเมริกันมีการใช้จ่ายด้านอื่นๆเพิ่มเติม เช่น ซื้ออาหารและเครื่องปรุง ซื้อของใช้ภายในบ้านในจำนวนที่มากกว่าปกติเพื่อลดการเดินทาง ซื้อสัตว์เลี้ยงและอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
การล็อคดาวน์และการที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านน่าจะส่งผลให้คนจำนวนมากขาดรายได้ แล้วชาวอเมริกันเอาเงินจากไหนมาใช้จ่าย?
เป็นที่ทราบกันว่าชาวอเมริกันจำนวนมากทำงานพิเศษกันตั้งแต่วัยรุ่น ดังนั้น ระยะเวลาที่มีรายได้จึงเริ่มเร็ว และมีระยะเวลาในการเก็บเงินยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับการเริ่มทำงานหลังจากจบการศึกษา นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้จ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโควิด19 ส่งผลให้คนอเมริกามีความสามารถในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
การที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นมากในปีที่แล้วมีสาเหตุหลักมาจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งได้ประโยชน์จากการที่คนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน รวมถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การปรับขึ้นของตลาดหุ้นมีส่วนช่วยหนุนความมั่งคั่งของชาวอเมริกันส่วนใหญ่
โดยข้อมูลจาก usafacts.org ระบุว่าในปี 2019 ครอบครัวอเมริกันราว 53% มีการลงทุนในหุ้น โดยมีมูลค่าลงทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐต่อครอบครัว โดยที่จำนวนครอบครัวที่ลงทุนโดยตรงในหุ้นมีเพียง 15% นอกนั้นเป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวมและกองทุนเพื่อการเกษียณ การที่ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นกอปรกับราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ชาวอเมริกันมีเงินออมส่วนเกินเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 ราว 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ การที่ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงมีเงินเหลือเพียงพอสำหรับใช้จ่าย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงไม่ออกมาหางานทำ ให้บริษัทต่างๆต้องขึ้นค่าจ้างเพื่อดึงดูดแรงงาน จึงมีแนวโน้มว่าชาวอเมริกันจะมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นอีก
โดยการจ้างงานในสหรัฐเมื่อสิ้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมายังคงมีผู้ทำงานน้อยกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 อยู่ราว 5.7 ล้านตำแหน่ง ในขณะที่ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 10 ล้านตำแหน่ง
โดยสรุป มีหลายปัจจัยที่ช่วยหนุนความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ได้แก่ เงินเก็บจากการทำงาน เงินเยียวยาจากรัฐบาล เงินลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม ราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้น และค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ดังนั้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งและช่วยหนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อไป อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ต้องระวังคือ มาตรการขึ้นภาษีของนายโจ ไบเด็น และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐอาจส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐลดลง รวมถึงความเสี่ยงที่ธนาคารกลางสหรัฐอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งกว่าที่ประเมินไว้
ย้อนกลับ
วางแผนการลงทุน
เริ่มต้นการลงทุน
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
วางแผนเพื่อลดหย่อนภาษี
แบบทดสอบระดับความเสี่ยง
คำนวณเงินลงทุนใน SSF
คำนวณเงินลงทุนใน RMF
คำนวณเงินลงทุนใน Thai ESG
@ccess Mobile Application
ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง