ทำอย่างไรให้ไวรัสอยู่ห่างไกลพอร์ตการลงทุน


โดย Schroders

 
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดความกังวลต่อทางด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังลุกลามต่อเนื่องไปถึงตลาดการเงินและการลงทุน เพราะนักลงทุนต่างก็คาดว่าผลกระทบจากไวรัสดังกล่าว จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจจีน รวมไปถึงเศรษฐกิจโลก ในขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อเอง ก็ยังคงไม่นิ่ง และยังมีปัจจัยเสี่ยงรวมถึงความไม่แน่นอนอีกมากมาย
จากสถานการณ์ไวรัสที่เกิดขึ้นดังกล่าวข้างต้น เรามีข้อแนะนำบางอย่างที่สามารถนำมาปรับใช้กับการลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนปลอดภัยจากการติดเชื้อ ทั้งทางร่างกาย และพอร์ตการลงทุนของคุณ


“เมื่อจีนจาม ทั้งโลกก็ติดหวัดไปด้วย”

นักวิเคราะห์หลาย ๆ คน พยายามยกเหตุการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ไปเทียบกับเมื่อครั้งไวรัส SARS ระบาดในปี 2003 ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะเห็นรูปแบบของการระบาดของไวรัสทั้ง 2 มีลักษณะคล้ายๆกัน อย่างไรก็ดี สถานะด้านเศรษฐกิจของโลก ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความสำคัญของเศรษฐกิจจีน ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
 
ในช่วงปี 2003 ที่เกิดการระบาดของไวรัส SARS นั้น เศรษฐกิจจีนมีคิดเป็นเพียงแค่ประมาณ 4% ของเศรฐกิจโลกเท่านั้น ขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ก็มีส่วนเพียงแค่ 14% ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่ผ่านมา 15 ปี สัดส่วนของเศรษฐกิจจีนที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ปรับขึ้นมาสูงถึง 16% ในขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกนั้น  35% มาจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีน หากจะมองให้ลึกไปอีก ในช่วงปี 2003 นั้น เศรษฐกิจจีนเติบโตได้สูงถึง 10% เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่เติบโตเพียงแค่ประมาณ 6% ดังนั้น การที่เศรษฐกิจจีนซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในสัดส่วนที่สูงมากกว่าเดิมเริ่มเติบโตช้าลง ย่อมส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ
 
นอกจากนี้ เมื่อมองในแง่ของการค้าและซัพพลายเชน ในปี 2003 จีนมีสัดส่วนในการส่งออกคิดเป็นเพียงแค่ 5% ของการส่งออกทั่วโลก แต่เติบโตขึ้นมาเป็นสัดส่วนถึง 13% ในปี 2018 ในขณะที่บางกลุ่มอุตสาหกรรม (เช่น อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์) จีนมีสัดส่วนการส่งออกสูงถึง 1 ใน 3 ของยอดการค้าทั่วโลก ดังนั้น การที่จีนมีความสำคัญและบูรณาการเข้าไปกับการค้าโลกมากขึ้นกว่าแต่เดิม ผลกระทบที่มีต่อการค้า การผลิต จึงค่อนข้างรุนแรงหากจีนมีความจำเป็นที่จะต้องปิดเมือง หรือโรงงานผลิตยาวนานขึ้น เพราะจะส่งผลต่อซัพพลายเชนทั่วโลกให้มีโอกาสหยุดชะงักได้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นการยากที่จะประเมินผลกระทบที่แท้จริง ณ ปัจจุบัน แต่เราเชื่อว่า ผล กระทบจากไวรัส COVID-19 ในครั้งนี้ น่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้างมากกว่าเมื่อครั้งเกิดการระบาดของ SARS ในปี 2003 และส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต้องชะลอออกไป อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าน่าจะยังไม่ถึงขั้นทำให้เศรษฐกิจโลกต้องชะงัก หรือถดถอย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าธนาคารกลางทั่วโลกเองยังคงดำเนินมาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายอยู่ แต่ก็จะทำให้ความผันผวนในตลาดการเงินมีสูงขึ้น เช่นเดียวกับไวรัสที่ทำให้ร่างกายคนอ่อนแอลง
 

แล้วจะทำอย่างไรให้พอร์ตการลงทุนยังมีสุขภาพที่แข็งแรง


การรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่อย่างเพียงพอเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ร่างการแข็งแรง เพราะอาหารที่ครบถ้วน และเพียงพอทุกหมู่ นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายเติบโตแล้ว ยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และทำหน้าที่ของมันได้อย่างครบถ้วน เช่นเดียวกันกับเรื่องของการลงทุน การผสมสินทรัพย์หลากหลายประเภทเข้าร่วมด้วยกัน ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ นอกจากจะมีตัวขับเคลือน เช่น หุ้นที่ช่วยทำให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้แล้ว การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น (เช่น ตราสารหนี้) ยังช่วยให้พอร์ตยังคงเติบโตและลดความผันผวนในวัฎจักรเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง
คุณภาพของอาหารที่คุณรับประทานเข้าไปย่อมส่งผลต่อร่างกายของคุณ อาหารที่มีคุณภาพดี ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพ หากทานแต่อาหารที่ไม่มีคุณภาพ แม้จะครบถ้วนทุกหมู่ ก็ย่อมส่งผลร้ายต่อสุขภาพเช่นกัน หากจะเปรียบกับการลงทุน คุณภาพของหลักทรัพย์ที่คุณถือครอง ก็ส่งผลต่อคุณภาพของพอร์ตการลงทุนเช่นเดียวกัน แม้จะมีการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ครบทั้งหุ้นและตราสารหนี้ แต่หากเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพต่ำ พอร์ตการลงทุนของคุณก็อาจจะไม่ได้มีความสามารถเพียงพอที่จะผ่านช่วงเวลาผันผวนไปด้วย ในภาวะตลาดปัจจุบันที่มีสภาพคล่องในตลาดล้นเหลือ และความไม่แน่นอนสูง สินทรัพย์ที่มีคุณภาพที่ควรถือไว้ในพอร์ตคือ บริษัททีมีอัตราการจ่ายปันผลดีและสม่ำเสมอ (ในกรณีหุ้น) หรือ บริษัทที่มีสภาพคล่องสูงและมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะชำระหนี้คืน หรือจ่ายคูปองได้ในกรณีตราสารหนี้ 
 

 
โดยทั่วไปแล้ว การหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่ ๆ มีคนเยอะ ๆ จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัสได้ แต่หากเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่ ๆ แออัด โอกาสการติดเชื้อของเราก็สูงขึ้น การลงทุนก็เช่นเดียวกัน ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน และเกิดความตื่นตระหนก เรามักจะเห็นพฤติกรรมแห่ตามกันไปตามคนหมู่มาก (Herding Behavior) อย่างชัดเจน ลองย้อนไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เราจะเห็นว่า มีการเทขายหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมบางกลุ่มออกมาอย่างรุนแรงในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลลบจากไวรัส COVID-19 อาทิเช่น หุ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ในขณะที่หุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เช่น กลุ่มผู้ผลิตยา กลุ่มสุขภาพ ก็ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็วเช่นเดียวกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว พฤติกรรมพวกมากลากไปแบบนี้มักจะมีอายุไม่ยืนยาวมากนัก เมื่อตลาดคลายความตระหนัก ก็มักจะปรับตัวกลัวเข้าสู่จุดสมดุลตามที่ควรจะเป็น ดังนั้น ในภาวะที่ตลาดมีความแตกตื่นแบบนี้ แทนที่เราจะไล่ตามคนหมู่มากเพราะความกลัวว่าจะตกขบวน อาจจะส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของคุณ “ติดเชื้อไวรัส” และเกิดผลขาดทุนจากการไล่ตามคนหมู่มากได้ ในขณะที่ความเป็นจริงแล้ว เราควรจะย้อนกลับมาดูแนวโน้มมุมมองในระยะยาว เพื่อให้มั่นใจว่าพอร์ตการลงทุนของเรา มีสินทรัพย์ที่ดีพอ สามารถต้านทานต่อความผันผวนในระยะสั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไล่ตามคนหมู่มาก
 

 
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพกพาติดตัวไปด้วยเสมอ เสมือนเกราะป้องกันไวรัส COVID-19 จากคนป่วยที่จะส่งผ่านมาสู่เรา (แม้ในคำแนะนำทั่วไปจะแนะนำว่า คนป่วยควรจะเป็นผู้ใส่ มากกว่าคนไม่ป่วย แต่สถานการณ์เช่นนี้ ป้องกันตัวเองไว้ก่อนก็ย่อมดีกว่า)
ในโลกของการลงทุน มีเทคนิคในการบริหารความเสี่ยงมากมายที่ช่วยป้องกันพอร์ตการลงทุนของคุณให้ห่างไกลจากความผันผวน เปรียบเสมือนหน้ากากอนามัยที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ตัวอย่างเช่น ในภาวะตลาดปัจจุบัน ก็อาจจะมีการลดสัดส่วนในสกุลเงินที่มีความเสี่ยงและผันผวนอ่อนไหวต่อภาวะความแตกตื่นต่อการแพร่ระบาด (เช่น สกุลเงินของประเทศในกลุ่มเอเชีย) และเข้ามาถือครองสกุลเงินที่มีความปลอดภัย – Safe Haven (เช่น ดอลล่าร์สหรัฐฯ) ซึ่งเปรียบเสมือนหน้ากากอนามัยสำหรับพอร์ตการลงทุน
นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและห่างไกลโรคร้าย หากจะเปรียบเทียบกับพอร์ตการลงทุน แทนที่จะมีการถือพอร์ตนิ่ง ๆ ทิ้งไว้โดยไม่สนใจเลย การปรับพอร์ตการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ หรือ รีบาลานซ์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณมีสุขภาพดีเพียงพอเข้ากับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันเช่นเดียวกัน แต่ต้องย้อนกลับไปดูคำแนะนำในข้อ 2 ด้วย ว่าการปรับพอร์ตของเรานั้น เป็นการปรับพอร์ตเพราะความตกใจตามคนหมู่มาก หรือ เป็นการปรับทบทวนพอร์ตเพื่อให้มั่นใจว่า พอร์ตของเราจะสามารถสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายระยะยาวที่เราตั้งไว้ได้หรือไม่

สรุป

การแพร่ระบาดของเชิ้อไวรัส COVID-19 ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสุขภาพของคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสุขภาพของพอร์ตการลงทุนด้วย
ข่าวดีก็คือ ในขณะที่เราพอจะมีวิธีในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารครบทุกหมู่ หลีกเลี่ยงไปที่ ๆ มีคนหมู่มาก ใส่หน้ากากอนามัย และออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลักการเช่นเดียวกันนี้ ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนได้ โดยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ และคอยปรับสมดุลของพอร์ตการลงทุนอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งพอร์ตการลงทุนในรูปแบบการ  กระจายการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์นี้ เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยทำให้เงินลงทุนของคุณ ห่างไกลจากการติดเชิ้อไวรัสได้

  
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน
 

ย้อนกลับ

@ccess Mobile Application

ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว