เศรษฐกิจโลกแบบนี้ โอกาสลงทุนดีๆ อยู่ที่ไหน?


สรุปประเด็นสำคัญจาก Facebook Live - Meet Fund Managers EP.1
เศรษฐกิจโลกแบบนี้ โอกาสลงทุนดีๆ อยู่ที่ไหน? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง  


โดย คุณจาตุรันต์ สอนไว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กรุงศรี
คุณเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี
ดำเนินรายการโดย คุณทีน่า สุภัททกิต เจตทวีกิจ

ภาพรวมของนโยบายการเงิน

  • เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25 (ข้อมูล ณ 9 มิ.ย. 66) เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยใกล้จุดสูงสุดแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมากจากการที่อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • จากรายงาน Dot pot เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะทยอยปรับเพิ่มดอกเบี้ยขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้
  • อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้เห็นด้วยตามข้อมูลดังกล่าว โดยตลาดเชื่อว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้แค่เพียง 1 ครั้งในปีนี้ และเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในปี 2567
ที่มา: CME, Bloomberg ณ 16 มิ.ย. 2566
 
ที่มา: Goldman Sachs Global Investment Research ณ 6 มิ.ย. 2566

ภาพรวมของเศรษฐกิจโลก
  • ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและหลายประเทศเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อสูง สภาพคล่องในระบบไม่ได้เยอะเหมือนช่วงที่ผ่านมา
  • จีนเป็นประเทศแรกที่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ดี แต่เศรษฐกิจจีนไม่ได้ฟื้นตัวเร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้ การบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยน้อยในประเทศน้อยลง จึงต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
  • สหรัฐและออสเตรเลียเป็นประเทศที่เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว และเริ่มมีท่าทีว่าจะสามารถควบคุมได้และเงินเฟ้อเริ่มเข้าสู่ทิศทางขาลงอย่างช้าๆ
  • สวีเดน อาร์เจนตินา เยอรมันนี นิวซีแลนด์ อัตราเงินเฟ้อยังอยู๋ในระดับสูง และแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ในขาขึ้น

ที่มา: บลจ.กรุงศรี, Bloomberg ณ 16 มิ.ย. 2566

ภาพรวมตลาดหุ้นโลก ปัจจัยบวก และความเสี่ยง

  • ภาพการลงทุนระยะสั้นยังคงมีความผันผวน การลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ยังเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจและเหมาะกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน
  • ปัจจัยบวกของการลงทุนในหุ้นคือ ราคาของตลาดหุ้นโลกยังมีราคาถูกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตโดยเฉพาะ MSCI EUROPE และหุ้นจีน A Shares การเติบโตของเงินปันผลสูง และตลาดหุ้นยังมีโอกาส upside ได้อีกมากโดยเฉพาะตลาดของประเทศพัฒนาแล้ว
ที่มา: Bloomberg ณ 12 มิ.ย. 2566

ที่มา: Datastream, I/B/E/S, Goldman Sachs Global Investment Research ณ 12 มิ.ย. 2566
 
  • ปัจจัยเสี่ยงสำหรับการลงทุนที่ต้องจับตามอง คือ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก สภาพคล่องของระบบสถาบันการเงิน ความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน
ที่มา: Bloomberg ณ 16 มิ.ย. 2566
 
  • หากมีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเร็วและแรงเกินคาด จะส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกมีความเปราะบางเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องแบกรับต้นทุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวเร่งการเกิดเศรษฐกิจถดถอยของหลายประเทศเพิ่มมากขึ้น
 

คำแนะนำการลงทุน
กองทุนตราสารหนี้
ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุดคือจังหวะที่ดีสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เช่นในปัจจุบัน เพราะจะได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีเพิ่มจากกําไรของส่วนต่างระหว่างราคาซื้อที่ต่ำกว่าราคาขาย (capital Gain) ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงหลังดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

กองทุนตราสารหนี้แนะนำ
กองทุนกรุงศรีโทเทิลรีเทิร์นบอนด์-สะสมมูลค่า (KFTRB-A)
มีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ตประมาณ 6 ปี ซึ่งการลงทุนในตราสารที่มีอายุเฉลี่ยยาวในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงจะได้ประโยชน์และได้ผลตอบแทนที่ดีจากส่วนต่างของราคา เนื่องจากเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลง ราคาตราสารถือที่กองทุนถืออยู่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลง 1% ถ้าเรามีการลงทุนในตราสารหนี้ที่อายุ 2 ปี ก็จะได้ผลตอบแทนประมาณการณ์อยู่ที่ 2 % แต่ถ้าลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุ 6 ปี เราก็จะได้ผลตอบแทนประมาณการณ์อยู่ที่ 6% นั่นเอง
กองทุน KFTRB-A ลงทุนในกองทุนต่างประเทศที่บริหารโดยผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ระดับโลกอย่าง PIMCO และเน้นลงทุนในพันธบัตรสหรัฐอเมริกาและ Agency Mortgage-backed securities ที่มีคุณภาพสูงมากประมาณ 80% ของพอร์ตการลงทุน และมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

กองทุนหุ้นต่างประเทศแนะนำ
กองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าอิควิตี้ CSI300 (KFCSI300) 
ลงทุนในกองทุนดัชนีหุ้นจีน A-Shares กองทุนนี้จะกระจายการลงทุนในหุ้น 300 บริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุด ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภายในประเทศ และได้รับประโยชน์เมื่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวโดยเฉพาะแรงสนับสนุนจากการบริโภคในประเทศ รวมทั้งกองทุนมีค่าธรรมเนียมต่ำ ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี CSI 300 Index เหมาะสำหรับการลงทุนทั้งในรูปแบบของการจับจังหวะช่วงสั้นๆ หรือจะลงทุนระยะยาวเพื่อโอกาสของผลตอบแทนที่สอดคล้องไปดัชนีหุ้นจีนก็ได้เช่นกัน

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้-สะสมมูลค่า (KFGBRAND-A)
ลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีฐานลูกค้าที่ใช้ประจำทั่วโลก เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ เทคโนโลยี บริษัทเหล่านี้มักจะมีกำไรสม่ำเสมอไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะขึ้นหรือลงและได้รับผลกระทบน้อยจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ สามารถลงทุนระยะยาวได้

กองทุนเปิดกรุงศรียุโรปอิควิตี้ (KF-EUROPE) และ กรุงศรียุโรปอิควิตี้เฮดจ์-สะสมมูลค่า (KFHEUROP-A)
ลงทุนในหุ้นยุโรป และราคาหุ้นของยุโรปมีความน่าสนใจ โดย PE อยู่ที่ประมาณ 12-13 เท่าและยังถูกกว่า S&P ของอเมริกา ประมาณ 35 % ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6-7 ปีที่ผ่านมา และการชะลอตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลง การบริโภคจะเริ่มฟื้นตัว สัดส่วนรายได้จากหุ้นที่กองทุนนี้ลงทุนมาจากหลายหลายประเทศทั่วโลก ไม่ได้พึ่งพาเศรษฐกิจของยุโรปเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีหุ้นของบริษัทข้ามชาติจำนวนมาก โดยหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้จากยุโรปอยู่ที่ 40% อีก 60% มาจากอเมริกา 25% เอเชีย 20% ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของจีนด้วย รวมทั้งประเทศอื่นๆ อีก 20%

สัดส่วนการลงทุนของกองทุนหุ้นต่างประเทศ
หากต้องการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ที่มีความทนทานต่อทุกภาวะเศรษฐกิจแนะนำลงทุนในกองทุน KFGBRAND กรณีที่ต้องการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีความผันผวนปานกลางแนะนำลงทุนในกองทุน KF-EUROPE และ KFHEUROP-A ส่วนผู้ที่สามารถรับความผันผวนเพิ่มขึ้นได้เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นแนะนำลงทุนในกองทุน KFCSI300

  • สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ: แนะนำลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 10% ของพอร์ต 
  • สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง: แนะนำลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 20% ของพอร์ต 
  • สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง: แนะนำลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 40% ของพอร์ต

ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ 9 มิ.ย. 66

ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ้งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

พบทุกคำตอบเรื่องเงินที่ Krungsri The Coach คลิกที่นี่ 






 

สอบถามเพิ่มเติม พร้อมขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757
หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------

นโยบายการลงทุนของกองทุน
  • KFTRB-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ PIMCO Total Return Bond Fund ที่จัดอยู่ใน class E Acc. (USD) ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์ โดยมี Pacific Investment Management Company LLC (PIMCO) เป็นผู้จัดการกองทุน | ระดับความเสี่ยง 4: เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • KFCSI300 ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ ChinaAMC CSI 300 Index ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAVโดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี CSI 300 เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีดังกล่าว โดยกองทุนหลักจะลงทุนผ่านโครงการ RQFII และ/หรือ Stock Connect ในอัตราส่วนร้อยละ 100 ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6: เสี่ยงสูง ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • KFGBRAND มีนโยบายลงทุนใน Morgan Stanley Investment Fund - Global Brands Fund (Class Z) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6: เสี่ยงสูง ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • KF-EUROPE และ KFHEUROP-A มีนโยบายลงทุนในกองทุน Allianz Europe Equity Growth Fund (กองทุนหลัก)โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6: เสี่ยงสูง | KF-EUROPE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | KFHEUROP-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน


ข้อมูลกองทุน KFTRB-A คลิก

ข้อมูลกองทุน KFCSI300-A คลิก

ข้อมูลกองทุน KFGBRAND-A คลิก

ข้อมูลกองทุน KF-EUROPE คลิก

ข้อมูลกองทุน KFHEUROP-A คลิก

ย้อนกลับ

@ccess Mobile Application

ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว