Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
EN
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
แจ้งใช้สิทธิ์ภาษีกับ Easy E-Receipt
ค้นหา
หน้าหลัก
>
วางแผนการลงทุน
>
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
>
มุมมองการลงทุนหุ้น Infra & Property 2568
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
ดอกเบี้ยขาลง ตลาดผันผวน ทำไมต้องหลบไปที่หุ้น Infra และ Property
มุมมองการลงทุนหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์
จากผู้จัดการกองทุนหลัก KFINFRA | KFGPROP และ บลจ.กรุงศรี
มุมมองจาก บลจ.กรุงศรี
โดย คุณเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์, CFA ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
ช่วงที่ผ่านมา ตลาดปรับตัวลดลงมาเยอะจาก 3 ประเด็นสำคัญ
ได้แก่ สงครามการค้า การเปลี่ยนกลุ่มหุ้นจากกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐไปสู่หุ้นกลุ่มอื่นๆ และเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว จึงเกิดการปรับฐานเป็นโอกาสสำหรับมองหาทางเลือกลงทุนครั้งใหม่
ที่มา: FactSet, Goldman Sachs Global Investment Research ณ 6 พ.ย. 67
บลจ.กรุงศรี นำเสนอ 2 กองทุน
ได้แก่
กองทุนเปิดกรุงศรีเน็กซ์เจเนเรชั่นอินฟราสตรัคเจอร์ (KFINFRA) และกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ (KFGPROP)
รับโอกาสเพิ่มผลตอบแทนเมื่อเทรนด์ดอกเบี้ยเป็นขาลง และจากตลาดเริ่มเกิด Sector Rotation ตลาดที่นิ่งมานานจึงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยความเสี่ยงที่น้อยกว่า
จุดเด่นโดยรวมของทั้งสองกองทุน คือ 1) มีความ laggard
เป็นภาคอุตสาหกรรมที่ underperform (ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาดโดยรวม) มากที่สุดในรอบ 5 ปี จึงมีราคาที่น่าสนใจ
2) ได้รับประโยชน์มากที่สุด
เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง
3) การเอาตัวรอด
จากสงครามการค้าได้ในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งแรก
กองทุนหลัก
ของ
KFINFRA
คือ
UBS (Lux) Infrastructure Equity Fund กองทุนหลักมอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาว*
ภายใต้การบริหารของ UBS Asset Management ส่วน
กองทุนหลัก
ของ
KFGPROP
คือ
Janus Henderson - Global Real Estate Fund
ภายใต้การบริหารของ Janus Henderson Investors ซึ่งทั้งสองกองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น เอาชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในภาคธุรกิจเป็นอย่างดี
*ที่มา: Morningstar rating จาก UBS ณ 28 ก.พ. 68 โดยการจัดอันดับนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด
ในช่วงที่ Bond Yield ปรับตัวลดลงอย่างมากตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
REITs สร้างผลตอบแทนเอาชนะตลาดได้เฉลี่ย 12% โครงสร้างพื้นฐานทำผลตอบแทนได้ประมาณ 9% ต่อปี
ทั้งสองภาคธุรกิจจึงเป็นธุรกิจที่ได้ประโยชน์มากที่สุดเมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ย และช่วงที่ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีในครั้งแรกทำให้ตลาดเกิดความกังวลเรื่องภาษี แต่สองภาคธุรกิจนี้ก็สามารถเอาตัวรอดมาได้เป็นอย่างดี
ที่มา: Bloomberg Finance L.P., ณ 27 ก.พ. 68 และ FactSet, Goldman Sachs Global Investment Research ณ 6 พ.ย. 67
ผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กองทุน KFGPROP ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 1.9% ซึ่งเหนือกว่าดัชนีกองทุนหลัก ส่วน KFINFRA ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 5.7% ถือว่าชนะดัชนี Infra
จึงแนะนำให้ลงทุน 2 กองนี้ประมาณ 5 - 1 0% ในพอร์ต
ที่มา: Morningstar Direct, 31 ม.ค. 68
มุมมองจากกองทุนหลัก
KFINFRA
:
UBS (Lux) Infrastructure Equity Fund
โดย Lily Chang, MPhil Investment Specialist, Thematic Equities Executive Director, UBS Asset Management
3 เหตุผลหลักที่ทำให้ Infrastructure เป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน
Ageing Infrastructure
: โครงสร้างพื้นฐานดั้งเดิมจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้มาตรฐานความปลอดภัย และรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ
Decarbonization
: ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการลดการปล่อยคาร์บอนจะกระตุ้นการลงทุนในพลังงานทดแทนตามห่วงโซ่ความต้องการพลังงาน
Digitalization
: การสร้างและใช้งานข้อมูลที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดต้องการการขยายศูนย์ข้อมูล เครือข่ายไฟเบอร์ และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานดั้งเดิมถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงขนานใหญ่ ปัญหาภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การเข้าสู่ยุคดิจิตัลที่ทำให้ต้องมีความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเร่งประสิทธิภาพของปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลในคลาวด์, และ IoT (Internet of Things) ทำให้เกิดความต้องการในธุรกิจประเภท Data Center เครือข่ายใยแก้วและโครงสร้างพื้นฐานด้านเทเลคอมขยายตัวเป็นอย่างมาก
โครงสร้างพื้นฐานเป็นธุรกิจที่มีลักษณะคล้ายกับการผูกขาดในหลายภาคส่วน เนื่องจากมีอุปสรรคในการเข้าแข่งขันสูงจากความต้องการสัญญาระยะยาว
ทำให้สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง และมีเงินปันผลอย่างมั่นคง ก่อให้เกิดการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำค่อนข้างมาก
3 ธีมสำคัญในการลงทุนและการให้น้ำหนักในการจัดพอร์ตลงทุน
ได้แก่
Climate change 60% Mobility 25% และ Smart Cities 15% กระจายการลงทุนกว่า 250 บริษัททั่วโลก
แต่เน้นตลาดสหรัฐ 70% และให้น้ำหนักใน 40 - 60 บริษัทที่มีความโดดเด่น พื้นฐานการเงินแข็งแกร่ง
กองทุนเน้นเรื่อง Climate Change โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด ก๊าซธรรมชาติจะมีบทบาทมากขึ้นในฐานะเป็นแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพดีกว่าแหล่งอื่น
อีกทั้งสหรัฐยังมีแหล่งก๊าซธรรมชาติอีกเป็นจำนวนมากจึงคาดว่าจะมีการเติบโตสูงมาก ประมาณการความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในสหรัฐจะเติบโตประมาณ 2.8% ต่อปีในระหว่างปี 2024 - 2030 โดยปัจจัยขับเคลื่อนได้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจและประชากร การเปลี่ยนจากพลังงานถ่านหินมาใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ ภาคอุตสาหกรรมต้องการแหล่งพลังงานที่เสถียร
กองทุนให้น้ำหนักการลงทุนในธุรกิจกลางน้ำสูงถึงประมาณ 30%
เช่น บริษัท Targa Resources ผู้ให้บริการท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือและตลาดโลก และเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตและกำไรสูงมาก
บริษัทชั้นนำที่กองทุนเข้าไปลงทุนตามธีมการลงทุนด้าน Climate Change
ได้แก่ Veolia บริษัทที่จัดการด้านขยะและบริหารจัดการน้ำ ธีม Mobility เช่น สนามบินซูริคและธีม Smart Cities อย่างบริษัท Digital Realty บริษัทด้านดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำของสหรัฐ
จุดเด่นของกองทุนคือผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเอาชนะตลาดด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 8.3% ด้วยการบริหารพอร์ตเชิงรุก
มีทีมนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะ มีประสบการณ์สูง มีกระบวนการลงทุนอย่างเป็นระบบ คัดสรรบริษัทที่จะเข้าลงทุนโดยพิจารณาประเด็นที่น่าสนใจได้แก่วัฏจักรเศรษฐกิจ ความน่าสนใจของภาคธุรกิจ ความน่าสนใจของตัวบริษัท รวมทั้งพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงต่างๆประกอบกันไปด้วย และมีการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์หลากหลายประเภท
ที่มา: UBS Asset Management ณ 31 ม.ค. 68
มุมมองจากกองทุนหลัก
KFGPROP
:
Janus Henderson - Global Real Estate Fund
โดย Tim Gibson, Co-Head of Global Property Equities, Portfolio Manager, Janus Henderson Investors
การกลับมาของประธานาธิบดีทรัมป์จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ และนโยบายภาษีล่าสุดได้เพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความผันผวนของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
สถานการณ์เช่นนี้จะเอื้อประโยชน์ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจากคุณสมบัติเชิงรับได้พิสูจน์ให้เห็นว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าภาคธุรกิจอื่นในช่วงที่ตลาดปรับฐานที่ผ่านมา
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนใน
3 รูปแบบ
คือ
เงินปันผล การกระจายความเสี่ยงไปในอสังหาทุกประเภท และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบปลอดภัย
ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน
กองทุนมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่มีคุณภาพสูงและ
กองทุน REITs ซึ่งมีสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์สินมากกว่า
สามารถบริหารจัดการทรัพย์สินได้โดยตรง และยังได้รับประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่า รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ง่ายกว่าผู้ถือครองอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ
แนวคิดและกลยุทธ์ในการลงทุนคือสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต มีความได้เปรียบในการแข่งขัน
สอดคล้องกับเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล วิถีชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบาย การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร และความยั่งยืน ธีมการลงทุนและภาคธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้แก่ โลจิสติกส์ เทคโนโลยีด้านอสังหา และ Healthcare ที่มีราคาน่าสนใจ
ภาคธุรกิจอสังหาที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นคือ non-core commercial real estate ใหม่ๆ เช่นที่เกี่ยวข้องกับ Data Center และธุรกิจสุขภาพ ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตโดดเด่น
ได้ขยายตัวอย่างมากในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และในปี 2024 คิดเป็นสัดส่วนถึง 61% ของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม
เมื่อไม่นานมานี้ กองทุนได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทค้าปลีกและสำนักงาน
การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวโน้มของตลาดหลังสถานการณ์โรคระบาด ที่ผู้บริโภคเริ่มกลับไปจับจ่ายที่ร้านค้าจริง และพนักงานก็เริ่มกลับเข้าไปทำงานในสำนักงานอีกครั้ง ส่วนการที่กองทุนให้สัดส่วนน้อยในธุรกิจ Data Centers ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะระดับราคาที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม การปรับฐานของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสให้กองทุนสามารถเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มนี้ได้
กลยุทธ์การลงทุนเน้นให้มีความแตกต่างจากกองทุนอื่นด้วยประสบการณ์ทั่วโลกกว่า 25 ปี
และมีทีมผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมนี้ถึง 8 คนที่สามารถวิเคราะห์เจาะลึกถึงสินทรัพย์แต่ละตัวเป็นการคัดเลือกหุ้นแบบ bottom up ดังนั้น ไม่ได้สนใจว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ กลยุทธ์ของกองทุนคือคัดเลือกสินทรัพย์ที่สามารถทนทานได้ในทุกสภาวะตลาดถ้าเกิดอะไรขึ้นก็สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
พอร์ตของกองทุนในปัจจุบันลงทุนในตลาดสหรัฐฯ 70%
ที่เหลือกระจายไปในยุโรปและเอเชีย
จุดเด่นของกองทุนคือให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
คาดการณ์เงินปันผลได้ประมาณ 4% ต่อปีและมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5 - 6%
รวมแล้วคาดการณ์ผลตอบแทนได้อยู่ที่ 10% สำหรับปีนี้
ที่มา: Janus Henderson Investors ณ 31 ธ.ค. 67
หมายเหตุ: สรุปมุมมองการลงทุนข้างต้นจากงานสัมมนา "Infra & Property: 2025 Next Investment Destinations after Rate Cut" วันที่ 11 มี.ค 68 โดยมุมมองของกองทุนหลักได้รับการอัปเดตจากทีมผู้จัดการกองทุนหลัก ณ 9 เม.ย. 2568
นโยบายกองทุน/คำเตือน
KFINFRA
ลงทุนในกองทุนหลัก UBS (Lux) Infrastructure Equity Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6: เสี่ยงสูง
สำหรับ KFGPROP
กองทุนลงทุนในกองทุนหลัก Janus Henderson - Global Real Estate Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 7: เสี่ยงสูง
ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
มีนโยบายการลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรม จึงอาจมีความเสี่ยงและความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลกองทุน KFINFRA-A คลิก
ข้อมูลกองทุน KFGPROP-A คลิก
ข้อมูลกองทุน KFGPROP-D คลิก
ข้อมูลกองทุน KFINFRARMF คลิก
ย้อนกลับ
วางแผนการลงทุน
ก้าวแรก...กองทุนรวม
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
วางแผนเพื่อลดหย่อนภาษี
คำนวณเงินลงทุนใน RMF
แบบทดสอบระดับความเสี่ยง
คำนวณเงินลงทุนใน Thai ESG
@ccess Mobile Application
ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง