คุณกำลังมองหากองทุน LTF ที่น่าลงทุนตอนปลายปีอยู่หรือเปล่า?
ถ้าใช่...คำถามต่อมาคือ
-
คุณอยากได้กองทุนแบบไหน?
-
เพื่อจุดประสงค์อะไร?
หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินกันแล้วว่าเราสามารถซื้อ LTF ไปลดหย่อนภาษีได้
...แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีความคุ้มค่ามากกว่านั้น เพราะคุณอาจจะมีโอกาสได้ปันผลกลับมาด้วย!
บทความนี้คุณจะได้รู้ว่ากองทุนปันผลนั้นมีดีอย่างไร ทำไมถึงน่าลงทุน พร้อมแนะนำกองทุนที่น่าสนใจจาก บลจ.กรุงศรี ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี...ไปดูกันเลย
กองทุน LTF ปันผลดียังไง?
LTF คือกองทุนรวมระยะยาวที่เน้นลงทุนในหุ้น ซึ่งสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้เมื่อลงทุนถูกต้องตามเกณฑ์ ดังนั้น ผู้มีรายได้ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีจึงให้ความสนใจลงทุนกันอย่างมาก ศึกษาหลักการเลือกซื้อกองทุน LTF เพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้จากบทความนี้
เนื่องจาก LTF เป็นการลงทุนในระยะยาวอย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน (หากซื้อปลายปีแล้วขายต้นปีปฏิทินที่ 7 ก็เท่ากับระยะเวลาจริงคือ 5 ปีกว่า) อาจจะมีบางคนที่ไม่อยากรอผลตอบแทนทีเดียวเมื่อครบ 7 ปี ดังนั้น กองทุน LTF ที่มีนโยบายจ่ายปันผลจึงน่าสนใจ
เพราะมีโอกาสจะให้ “กระแสเงินสด” ออกมาเป็นช่วงๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรับเงินสดมาใช้จ่ายระหว่างทางที่ถือการลงทุน บางกองทุนอาจจะปันผล 1 ครั้งต่อปี แต่ก็มีบางกองทุนที่กำหนดจ่ายปันผลถี่กว่านั้น ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้ในนโยบายการลงทุน
นอกจากนี้ อีกจุดเด่นของกองทุนปันผลคือ
สามารถลดความเสี่ยงในช่วงตลาดหุ้นผันผวนได้ เมื่อตลาดหุ้นมีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาลง เงินปันผลที่รับออกมาก่อนหน้าคือกำไรที่ได้มาไว้ในมือแน่ๆ แล้ว จึงลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนหนักจากการลงทุนต่อไปได้ อย่างไรก็ตามมีสิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนใน LTF ปันผล ดังนี้
ข้อควรรู้เกี่ยวกับกองทุนปันผล
อย่างที่ทราบไปแล้วว่ากองทุนปันผลจะช่วยลดความเสี่ยงด้วยการเอากระแสเงินสดออกมาเป็นช่วงๆ แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องจ่ายค่าลดความเสี่ยงเป็น
ภาษีเงินปันผลด้วย โดยสามารถเลือกได้ว่าจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% หรือนำไปรวมกับรายได้ทั้งหมดเพื่อคำนวณภาษีเงินได้ประจำปี
อีกข้อที่ควรรู้คือ กองทุน LTF ที่มีนโยบายปันผลอาจจะไม่ได้จ่ายปันผลสม่ำเสมอทุกปี คุณจะได้รับปันผลก็ต่อเมื่อ
กองทุนมีกำไรในรอบบัญชีนั้น และ/หรือมีกำไรสะสม ดังนั้น หากกองทุนที่ลงทุนไปไม่ได้มีการเติบโตหรือขาดทุนสะสมก็จะไม่จ่ายปันผลให้ในปีนั้น
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่หลายๆคนมักเข้าใจผิดกัน เช่น กองทุนที่ปันผลมากดีกว่ากองทุนที่ปันผลน้อย กองทุนยิ่งมีปันผลบ่อยก็ยิ่งดี ...ซึ่งก็ไม่เสมอไป
ในความเป็นจริงแล้วอย่าดูเพียงแค่เงินปันผลอย่างเดียว แต่ให้พิจารณาจาก‘ผลตอบแทน’ด้วย เพราะสุดท้าย
ผลตอบแทนจะขึ้นกับสินทรัพย์ที่เลือกลงทุนและกำไรสะสมของกองทุน บางกองทุนอาจจะจ่ายเงินปันผลออกมาเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับกำไรที่กองทุนได้มา แต่สะสมผลกำไรไว้ในกองทุนเพื่อลงทุนต่อไปให้เงินเติบโตขึ้น มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ก็จะเพิ่มมากขึ้น เมื่อขายคืนหน่วยลงทุนก็จะกำไรมาก คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนรวมอาจมากกว่ากองทุนที่จ่ายเงินปันผลอัตราสูงระหว่างทางก็ได้
ที่สำคัญคือ กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน LTF ที่ลงทุนถูกต้องครบตามเงื่อนไขจะได้รับการยกเว้นภาษีด้วย เท่ากับได้รับผลตอบแทนเต็มๆ ซึ่งต่างจากเงินปันผลที่จะต้องเสียภาษี
เมื่อคุณรู้จักกองทุน LTF ปันผลแล้ว ลองชั่งน้ำหนักดูข้อดี ข้อเสียของกองทุนที่มีการจ่ายเงินปันผล พิจารณาควบคู่กับเป้าหมาย และหากคุณได้สรุปแล้วว่านี่เป็นกองทุนที่ตอบโจทย์การลงทุนของคุณ มารู้จักกับกองทุน LTF ปันผลที่น่าสนใจจาก บลจ.กรุงศรี กัน
แนะนำกองทุน LTF ปันผลที่น่าจับตามอง
ในบทความนี้เราคัดมา 2 กองทุนปันผล
ที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
KFLTFA50-D และ KFLTFDIV
1. กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวแอ็คทีฟ SET50 ปันผล (KFLTFA50-D)
กองทุน
KFLTFA50-D ได้รับการ
จัดอันดับเป็นกองทุนอันดับ 1 ที่มีผลตอบแทนดีและสม่ำเสมอนานถึง 70 สัปดาห์ จัดอันดับโดย WealthMagik (ข้อมูลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561)
Benchmark ของกองทุน คือ SET TRI | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมลงทุนในหุ้นระยะยาว มีนโยบายการลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยเน้นการลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET50 แต่จะมีการบริหารกองทุนแบบ Active เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด
เนื่องจากเป็นกองทุนหุ้นจึงมีความเสี่ยงสูง (ระดับ 6) เหมาะกับการลงทุนระยะยาว กองทุนจัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึง ก.พ. 2561 มีประวัติการจ่ายเงินปันผลมาเล้ว 12 ครั้ง รวมเป็นเงิน 6.68 บาท
อ่านรายละเอียดของกองทุน KFLTFA50-D เพิ่มเติม
คลิกที่นี่
2. กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV)
จุดเด่นของกองทุนนี้อยู่ที่การจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องทุกปีมาตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2547 จนถึงปี 2560 รวม 13 ครั้ง เท่ากับ 9.79 บาท กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยจะเน้นลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดี ความเสี่ยงสูงระดับ 6 เช่นกัน
อ่านรายละเอียดของกองทุน KFLTFDIV เพิ่มเติม คลิกที่นี่
สรุป
จากคำถามที่หลายๆคนสงสัย
“ควรเลือกซื้อกองทุนที่มีหรือไม่มีปันผลดี?”
จะเห็นได้เลยว่าไม่มีคำตอบตายตัวเสมอไป แต่สำหรับ LTF ที่จ่ายปันผลนั้น แน่นอนว่าไม่ได้มีดีแค่ใช้ลดหย่อนภาษี แต่ยังให้คุณมีโอกาสได้รับปันผลไปด้วย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มีความต้องการกระแสเงินสดออกมาใช้จ่ายระหว่างเส้นทางการลงทุนและลดความเสี่ยงในช่วงตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลงได้ แต่อย่าลืมว่าเงินปันผลที่ได้รับนั้นจะต้องจ่ายภาษีด้วย ดังนั้น ถ้าเป้าหมายคือการเก็บเงินลงทุนสะสมระยะยาวไว้ใช้ในอนาคต การลงทุนใน LTF ที่ไม่จ่ายปันผลอาจจะตรงใจกว่า
เมื่อคุณมีเป้าหมายชัดและข้อมูลครบถ้วน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถตัดสินใจเลือกกองทุนได้ไม่ยาก
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | LTF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในหุ้น