Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
แจ้งใช้สิทธิ์ภาษีกับ Easy E-Receipt
ค้นหา
หน้าหลัก
>
สรุปภาวะตลาด
>
Flash Update
>
ภาษีนำเข้ารถยนต์สหรัฐฯ มาตรการใหม่ กระทบใคร?
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
แจ้งใช้สิทธิ์ภาษีกับ Easy E-Receipt
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
Flash Update
ภาษีนำเข้ารถยนต์สหรัฐฯ มาตรการใหม่ กระทบใคร?
27/03/2568
ตลาดหุ้นถูกกดดันอีกครั้งหลังทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% มีผล 2 เมษายน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% โดยจะมีผลในวันที่ 2 เมษายน
ภาษีนี้จะครอบคลุมทั้งรถยนต์ที่ประกอบเสร็จแล้ว รวมถึงชิ้นส่วนสำคัญ เช่น เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย สำหรับข้อตกลง USMCA ภาษี 25% จะมีผลเฉพาะกับชิ้นส่วนที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ
รถยนต์ที่สหรัฐฯ นำเข้าส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา และเยอรมนี ซึ่งสหภาพยุโรปและประเทศคู่ค้าหลายรายกำลังพิจารณามาตรการตอบโต้
ขณะที่ทรัมป์เชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยพลิกฟื้นอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ และได้อ้างถึงแผนขยายการลงทุนมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ของ Hyundai Motor ในสหรัฐฯ ว่าเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามาตรการภาษีมีประสิทธิภาพ
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่ามาตรการภาษีนี้จะสร้างรายได้ให้รัฐบาลสหรัฐฯ ราว 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าภาษีดังกล่าวอาจทำให้ราคารถใหม่สูงขึ้นมาก โดยภาษีนำเข้าต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน อาจทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ Crossover เพิ่มขึ้น 4,000 ดอลลาร์ต่อคัน ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในสหรัฐฯ อาจมีต้นทุนสูงขึ้นถึง 12,000 ดอลลาร์
มาตรการภาษีของทรัมป์ได้กลับมาสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยทรัมป์ย้ำว่าภาษีนำเข้ารถยนต์ดังกล่าวเป็นมาตรการถาวร และไม่มีข้อยกเว้น ส่งผลให้หุ้นของ General Motors, Ford Motor และ Stellantis ปรับตัวลดลง รวมถึงหุ้นผู้ผลิตรถยนต์ในเอเชีย นำโดย Toyota Motor ปรับตัวลดลงช่วงเช้าวันนี้
ขณะเดียวกันตลาดยังคงรอติดตามถึงการประกาศใช้นโยบายภาษีตอบโต้ที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน
ที่มา: Bloomberg, CNBC | อัปเดต ณ 27 มี.ค. 2568
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอดูหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด โทร 0 2657 5757 หรืออีเมล
krungsriasset.clientservice@krungsri.com
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ
ดาวน์โหลด
โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
ย้อนกลับ
สรุปภาวะตลาด
สรุปภาวะตลาดรายวัน
สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
สรุปภาวะตลาดรายเดือน
Flash Update
ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี
บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง