สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
22/04/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกลบผสมผสานในวันที่ 19 เม.ย. โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรสหลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด ด้านดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้
  • บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส รายงานผลกำไรไตรมาสแรกสูงกว่าคาด ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ ขณะที่บริษัทเน็ตฟลิกซ์ คาดการณ์รายได้ไตรมาส 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และระบุว่าบริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลจำนวนสมาชิกอีกต่อไป ทำให้หุ้นบริษัทเน็ตฟลิกซ์ตกหนักและกดดันดัชนี S&P500 และ Nasdaq
  • นายออสเตน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ความคืบหน้าในการปรับลดเงินเฟ้อนั้นได้หยุดชะงักในปีนี้ ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่เฟดรายล่าสุดที่ทำลายความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้
  • เกิดเหตุระเบิดในเมืองอิสฟาฮานของอิหร่านในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าเป็นการโจมตีของอิสราเอล แต่อิหร่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ดังกล่าวและระบุว่าไม่มีแผนการตอบโต้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอิหร่านต้องการหลีกเลี่ยงการทำสงครามครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง
  • สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า อิสราเอลใช้ขีปนาวุธโจมตีอิหร่านเมื่อวันที่ 19 เม.ย. เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ทำการโจมตีดินแดนอิสราเอลเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อิหร่านเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ว่า อิสราเอลใช้เพียงโดรนโจมตีอิหร่าน ไม่ใช่ด้วยขีปนาวุธ และกองทัพอิหร่านสามารถยิงสกัดโดรนทำลายล้างของอิสราเอลได้เป็นผลสำเร็จ
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันที่ 19 เม.ย. แต่ฟื้นตัวขึ้นพ้นจุดต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่หุ้นลอรีอัลของฝรั่งเศสพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
  • อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นที่ไม่รวมหมวดอาหารสดแต่รวมหมวดพลังงานเพิ่มขึ้น 2.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน มี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือน ก.พ.  และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 2.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก่อนหน้า
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันที่ 19 เม.ย. เนื่องจากข่าวอิสราเอลโจมตีอิหร่านส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 เม.ย. ซื้อขายในแดนลบตลอดทั้งวัน ปิดร่วงลงกว่า 2% ทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังมีรายงานว่าอิสราเอลยิงขีปนาวุธโจมตีเข้าไปในดินแดนอิหร่าน ส่งผลให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และอีกหลากหลายประเทศเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยได้ปัจจัยลบจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเร็วๆ นี้ หรือแม้แต่ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นจะสามารถกลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีได้ หากกำไรบริษัทจดทะเบียนออกมาดีและสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านไม่ยืดเยื้อ

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,986.40 จุด เพิ่มขึ้น 211.02 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,967.23 จุด ลดลง 43.89 จุด หรือ -0.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,282.01 จุด ลดลง 319.49 จุด หรือ -2.05%
    • ในรอบสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.01% ขณะที่ S&P500 ลดลง 3.05% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 5.52%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 499.30 จุด ลดลง 0.41 จุด หรือ -0.08%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,068.35 จุด ร่วงลง 1,011.35 จุด หรือ -2.66%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,065.26 จุด ลดลง 8.96 จุด หรือ -0.29%
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 15.80 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 2,413.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 1.97% ในรอบสัปดาห์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 83.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,332.08 ลบ 28.94 จุด (-2.13%) Trading Volume: 57,497.73 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างมาก โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-2.02%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-1.48%) และกลุ่มพาณิชย์ (-2.11%)  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,767.86 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดไม่เปลี่ยนแปลง
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
    • นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,735.95 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,410.70 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน