ปัจจัยสำคัญ 

• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือน เม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป เช่น บริษัทเอ็กซ์พีเรียนของอังกฤษ และคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนี ขณะที่หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับพุ่งขึ้นเช่นกัน หลังดัชนีผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือน เม.ย. ซึ่งเพิ่มโอกาสที่เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้ และมีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากขึ้นด้วย
• ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนทำการซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลบแรงซื้อหุ้นบริษัทญี่ปุ่นที่ประกาศแผนซื้อหุ้นคืน (share buyback)
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหลายรายการซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในขณะที่จีนก็ขู่ว่าจะตอบโต้การกระทำดังกล่าว อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์จีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้
• ตลาดหุ้นไทยปิดลบ แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะร่วงลงซื้อขายในแดนลบตลอดช่วงที่เหลือของวัน ปิดตลาดปรับตัวลดลงทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค นักลงทุนยังคงรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของเฟด

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

สรุปภาพรวมตลาด

• ต่างประเทศ
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,908.00 จุด เพิ่มขึ้น 349.89 จุด หรือ +0.88%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,308.15 จุด เพิ่มขึ้น 61.47 จุด หรือ +1.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,742.39 จุด เพิ่มขึ้น 231.21 จุด หรือ +1.40%
  • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 524.71 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด หรือ +0.59%
  • ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,385.73 จุด เพิ่มขึ้น 29.67 จุด หรือ +0.35%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,119.90 จุด ลดลง 25.87 จุด หรือ -0.82%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 78.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 35 ดอลลาร์ หรือ 1.48% ปิดที่ 2,394.90 ดอลลาร์/ออนซ์
• ในประเทศ
  • SET ปิดที่ 1,370.44 ลบ 6.13 จุด (-0.45%) Trading Volume: 49,705.59 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายปานกลาง โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.60%) ตามด้วยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (+1.71%) และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (-1.70%)  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,638.18 ล้านบาท
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
    • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
    • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
    • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1 bp
    • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 2-4 bps
  • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 14,304.88 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 583.76 ล้านบาท

• หุ้นทั่วโลก คลิก: KFGLOBAL-A | KFGLOBFX-A | KFWINDX-A
• หุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก คลิก: KFGBRAND-A | KFGBRAND-D | KFGBRANSSF | KFGBRANRMF
• ตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี คลิก: KFSINCFX-A | KFSINCFX-R | KF-CSINCOM | KF-SINCOME | KFSINCRMF