Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
ตารางวันคำนวณจำนวนหน่วย
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
ค้นหา
หน้าหลัก
>
สรุปภาวะตลาด
>
สรุปภาวะตลาดรายวัน
>
สรุปภาวะตลาดประจำวันที่ 13 มีนาคม 2567
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
สรุปภาวะตลาดรายวัน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
13/03/2567
ปัจจัยสำคัญ
ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 200 จุดในวันอังคาร (12 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง ซึ่งรวมถึงหุ้นอินวิเดีย และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือน ก.พ. วานนี้ (12 มี.ค.) โดยดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.1% จากระดับ 3.1% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือน ก.พ. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.3% ในเดือน ม.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.9% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือน ก.พ. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.4% ในเดือน ม.ค.
เจฟฟรีย์ โรช นักวิเคราะห์จากบริษัท LPL Financial กล่าวว่า ตัวเลข CPI ที่มีการเปิดเผยนี้ไม่ได้ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลมากเกินไปว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. แม้ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเส้นทางที่เฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ยังคงไม่แน่นอน
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. ซึ่งขยับลงเล็กน้อยจากระดับ 71% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI
หุ้นออราเคิล พุ่งขึ้น 11.7% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนี S&P500 ปิดทำ New High หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่สูงเกินคาดในเดือน ธ.ค.66 - ก.พ.67 ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ของปีงบการเงินบริษัท โดยได้แรงหนุนจากรายได้ของธุรกิจคลาวด์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น โดยหุ้นอินวิเดียทะยานขึ้นกว่า 7% หุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นเมตาพุ่งขึ้น 3.3%
นักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือน ก.พ. ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ (14 มี.ค.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 19-20 มี.ค.
นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีกเดือน ก.พ. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือน มี.ค. จากเฟดนิวยอร์ก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นำโดยหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน มิ.ย. หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ
ดัชนี STOXX 600 ยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มิ.ย. หลังเงินเฟ้อชะลอตัวลงในยูโรโซนในช่วงที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรปพุ่งขึ้น 2.4% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นปอร์เช่ที่ทะยานขึ้น 11.5% แม้คาดการณ์กำไรปีนี้อาจลดลงก็ตาม ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 1.9%
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยข้อมูลในวานนี้ (12 มี.ค.) ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.พ. ของเยอรมนีที่ถูกปรับให้สอดคล้องกับสหภาพยุโรป (HICP) ชะลอตัวสู่ระดับ +2.7% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับข้อมูลประมาณการเบื้องต้น โดยลดลงจากระดับ +3.1% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี HICP ของเยอรมนีในเดือน ก.พ.อยู่ที่ +0.6% สอดคล้องกับข้อมูลประมาณการเบื้องต้น พลิกจากระดับของเดือน ม.ค. ที่ -0.2%
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบเล็กน้อย โดยช่วงเช้านิกเกอิร่วงไปเกือบ 550 จุด โดยดัชนีเผชิญแรงเทขายหุ้นชิปและหุ้นเทคโนโลยี หลังหุ้นกลุ่มเดียวกันที่ตลาดสหรัฐร่วงลงในวันก่อนหน้า อย่างไรก็ดี นิกเกอิลดช่วงลบในช่วงบ่าย หลังจากที่นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาของญี่ปุ่นว่า BOJ อาจจะยังไม่ยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในการประชุมเดือน มี.ค. นี้ ส่งผลให้สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น โซนี่ กรุ๊ป และนิสสัน มอเตอร์ กลับเข้าสู่แดนบวก อย่างไรก็ตาม นิกเกอิดีดตัวขึ้นไม่ถึงแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐลงเมื่อใด
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน ก.พ. 67 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจอยู่ที่ 0.1% และสูงกว่าระดับ 0.0% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI ของญี่ปุ่นในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด แต่สูงกว่าระดับ 0.2% ในเดือน ม.ค.
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร พร้อมกับรอดูการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่จากรัฐบาลจีน
นายหวัง หยิง นักวิเคราะห์จากบริษัทหนานหัว ฟิวเจอร์ส์กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วข้อมูลเศรษฐกิจและการเปิดเผยนโยบายเมื่อไม่นานมานี้มีความสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และหากรัฐบาลจีนไม่มีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเดือน มี.ค. ตลาดหุ้นจีนก็อาจจะได้รับผลกระทบจากข้อมูลในต่างประเทศ
ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบการเงินในวานนี้ (12 มี.ค.) ผ่านข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 1.8% การอัดฉีดเงินสดครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้มีเสถียรภาพอย่างเหมาะสม
ตลาดหุ้นไทยปิดลบโดยดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งในแดนบวกและลบ ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ
มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี
หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟด คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (bond yield) กลับมายืนเหนือระดับ 4.1% อีกครั้ง เป็นโอกาสทยอยสะสมกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก เพื่อคาดหวังผลตอบจากส่วนต่างราคา (capital gain) หากเฟดปรับลดดอกเบี้ยลงในปีนี้
สรุปภาพรวมตลาด
ต่างประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,005.49 จุด เพิ่มขึ้น 235.83 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,175.27 จุด เพิ่มขึ้น 57.33 จุด หรือ +1.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,265.64 จุด เพิ่มขึ้น 246.36 จุด หรือ +1.54%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 506.52 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด หรือ +1.00%
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,797.51 จุด ลดลง 22.98 จุด หรือ -0.06%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,055.94 จุด ลดลง 12.52 จุด หรือ -0.41%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 77.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 22.50 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 2,166.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ในประเทศ
SET ปิดที่ 1,379.63 ลบ 0.60 จุด (-0.04%) Trading Volume: 40,987.46 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.26%) ตามด้วยกลุ่มพาณิชย์ (-0.47%) และกลุ่มไอซีที (+0.43%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 200.46 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดแกว่งตัว 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 1-5 ปี ปิดแกว่งตัว 1 bp
อายุ >5-10 ปี ปิดแกว่งตัว 1 bp
อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-3 bps
IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1-2 bps
นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 40,540.49 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,794.12 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี
คลิก:
KFSINCFX-A
|
KF-CSINCOM
|
KF-SINCOME
|
KFSINCRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ย้อนกลับ
สรุปภาวะตลาด
สรุปภาวะตลาดรายวัน
สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
สรุปภาวะตลาดรายเดือน
Flash Update
ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี
บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
คุกกี้
เว็บไซต์ของบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงนำเสนอเนื้อหา และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ การกดปุ่ม
“ตกลงทั้งหมด”
จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภทได้ตามที่คุณต้องการโดยกดปุ่ม
“ตั้งค่าคุกกี้”
โดยคุณสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประกาศการใช้งานคุกกี้
ของบริษัท
×
คุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง