ปัจจัยสำคัญ 

• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ (7 มิ.ย.) เพื่อประเมินช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มเฮลท์แคร์ แม้ตลาดปิดต่ำกว่าระดับสูงของวัน หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 โดยระบุถึงความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อ แม้ยอมรับว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่สิ้นสุดก็ตาม ทั้งนี้กำหนดเวลาของการปรับลดดอกเบี้ยในครั้งถัดไปยังไม่ชัดเจน
• ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวก โดยหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พากันปรับตัวขึ้นแรงตลอดทั้งวันตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ หลังมีรายงานว่า มูลค่าตามราคาตลาดของ Nvidia พุ่งทะลุระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก และขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากบริษัทไมโครซอฟท์ ทั้งนี้ตลาดลดความร้อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน พ.ค. ของสหรัฐในวันนี้ (7 มิ.ย.) อย่างใกล้ชิด
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการของรัฐบาลอาจไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกันนักลงทุนรอติดตามข้อมูลการค้าของจีนในวันนี้ (7 มิ.ย.) เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
• ตลาดหุ้นไทยปิดลบโดยเปิดตลาดซื้อขายในแดนบวกในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ก่อนที่จะร่วงลงซื้อขายในแดนลบตลอดช่วงที่เหลือของวัน ปิดตลาดปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง โดยเป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเมืองภายในประเทศ ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคต่างปิดปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในวันก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนเพิ่มความคาดหวังว่าเฟดจะประกาศลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

สรุปภาพรวมตลาด

• ต่างประเทศ
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,886.17 จุด เพิ่มขึ้น 78.84 จุด หรือ +0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,352.96 จุด ลดลง 1.07 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,173.12 จุด ลดลง 14.78 จุด หรือ -0.09%
  • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 524.68 จุด เพิ่มขึ้น 3.45 จุด หรือ +0.66%
  • ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,703.51 จุด เพิ่มขึ้น 213.34 จุด หรือ +0.55%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,048.79 จุด ลดลง 16.61 จุด หรือ -0.54%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 75.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 15.40 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 2,390.90 ดอลลาร์/ออนซ์
• ในประเทศ
  • SET ปิดที่ 1,328.41 ลบ 9.91 จุด (-0.74%) Trading Volume: 45,540.12 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-1.44%) ตามด้วยกลุ่มขนส่ง (-1.76%) และกลุ่มธนาคาร (-0.77%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,184.65 ล้านบาท
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
    • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
    • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1-2 bps
    • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-2 bps
    • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 2-3 bps
  • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 37,549.95 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 330.82 ล้านบาท