ปัจจัยสำคัญ 

• ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก โดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร พุ่งขึ้น 2.68% และ 1.51% ตามลำดับ รวมทั้งความหวังที่ว่าข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอ ที่เพิ่มขึ้นเพียง 152,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. และเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 3.7% และเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 4 เดือน ซึ่งรวมถึงหุ้นเอเอสเอ็มแอล (ASML) บริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 8.1% หลังมีความเป็นไปได้ว่าของยอดสั่งซื้อจากบริษัท TSMC ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่จะยังคงมีต่อเนื่องในไตรมาสต่อๆ ไป ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ (6 มิ.ย.)
• ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มส่งออก หลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ (4 มิ.ย.) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรจากการขายในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินเยน ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินก็ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการ อันเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของญี่ปุ่นที่ลดลง
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยฉุดตลาด และได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานภาคบริการของจีนที่ขยายตัวเกินคาดในเดือน พ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นแตะระดับ 54 จากระดับ 52.5 ในเดือน เม.ย. โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566
• ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย ช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบๆ แดนบวก ในขณะที่ช่วงบ่ายแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งในแดนบวกและลบ ปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ไร้ปัจจัยใหม่หนุน สอดคล้องกับตลาดภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในกรอบ เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามการรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งผลประชุม ECB ในวันนี้ (6 มิ.ย.)

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

สรุปภาพรวมตลาด

• ต่างประเทศ
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,807.33 จุด เพิ่มขึ้น 96.04 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,354.03 จุด เพิ่มขึ้น 62.69 จุด หรือ +1.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,187.90 จุด เพิ่มขึ้น 330.86 จุด หรือ +1.96%
  • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 521.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.18 จุด หรือ +0.81%
  • ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,490.17 จุด ลดลง 347.29 จุด หรือ -0.89%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,065.40 จุด ลดลง 25.80 จุด หรือ -0.83%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 28.10 ดอลลาร์ หรือ 1.20% ปิดที่ 2,375.50 ดอลลาร์/ออนซ์
• ในประเทศ
  • SET ปิดที่ 1,338.32 บวก 1.00 จุด (+0.07%) Trading Volume: 38,600.06 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มขนส่ง (+0.03%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (+0.00%) และกลุ่มธนาคาร (-0.71%)  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 121.23 ล้านบาท
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
    • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
    • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
    • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1 bp
    • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
  • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 8,646.71 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,528.05 ล้านบาท