สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
03/01/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกลบสลับกันไป โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิ้ล หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิ้ล ขณะที่หุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูงร่วงลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4% เมื่อคืนนี้ และสร้างแรงกดดันต่อหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นเหล่านี้รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นของ 7 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง (Magnificent Seven) ซึ่งได้แก่ ไมโครซอฟท์ แอปเปิ้ล อัลฟาเบท อะเมซอน เทสลา เมตา แพลตฟอร์มส์ และอินวิเดีย
  • นักวิเคราะห์ของธนาคารบาร์เคลย์สได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิ้ลลงสู่ระดับ "Underweight" และปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นแอปเปิ้ลลงสู่ระดับ 160 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 161 ดอลลาร์ โดยบาร์เคลย์สระบุว่า ยอดขาย iPhone 15 อยู่ในภาวะซบเซาในขณะนี้ โดยเฉพาะในจีน ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่อ่อนแอของยอดขาย iPhone 16 ซึ่งเป็น iPhone รุ่นถัดไป กดดันให้หุ้นแอปเปิ้ลปรับตัวลดลง
  • มีแรงซื้อหุ้นปลอดภัย (Defensive Stocks) หรือหุ้นที่สามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ช่วยพยุงดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยหุ้นดังกล่าวรวมถึงหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และหุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. ปีนี้
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันซื้อขายวันแรกของปีใหม่ เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดร่วงลง และตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้น และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอถ่วงตลาดลงด้วย
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซน เพิ่มขึ้นสู่ 44.4 ในเดือน ธ.ค. จาก 44.2 ในเดือน พ.ย.
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ หลังมีรายงานว่าภาคการผลิตจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในปีนี้
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวลดลงแตะ 49.0 ในเดือน ธ.ค. จากระดับ 49.4 ในเดือน พ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.5
  • ในขณะที่ PMI ภาคการผลิตที่จัดทำโดยไฉซิน ซึ่งเน้นสำรวจบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กในภาคเอกชน เพิ่มขึ้นสู่ 50.8 จาก 50.7 ส่วน PMI นอกภาคการผลิตที่จัดทำโดยทางการ เพิ่มขึ้นสู่ 50.4 จาก 50.2
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงก่อนเปิดตลาด แต่หลังจากตลาดเปิดทำการ ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยซื้อขายในแดนบวกตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก นำโดยหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งได้แรงหนุนจากการที่ไทยและจีนประกาศยกเว้นไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศระหว่างกันเป็นการถาวร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลให้การเดินทางระหว่างจีนและไทยมีมากขึ้น ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

หุ้นปลอดภัย (Defensive Stocks) ในตลาดหุ้นสหรัฐยังคงมีความน่าสนใจจากการที่เริ่มมีแรงซื้อเข้ามา ด้านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนประกาศออกมาต่ำอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งสะท้อนมายังตลาดหุ้นจีนที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับนักลงทุนที่มีสถานะในหุ้นจีนแนะนำให้ถือ เพื่อรอการฟื้นตัวกลับมา

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,715.04 จุด เพิ่มขึ้น 25.50 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,742.83 จุด ลดลง 27.00 จุด หรือ -0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,765.94 จุด ลดลง 245.41 จุด หรือ -1.63%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 478.51 จุด ลดลง 0.51 จุด หรือ -0.11% หลังแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 ในระหว่างวัน
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 2,962.28 จุด ลดลง 12.66 จุด หรือ -0.43%
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 2,073.40 ดอลลาร์/ออนซ์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 70.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,433.38 บวก 17.53 จุด (+1.24%) Trading Volume: 43,277.72 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.95%) ตามด้วยกลุ่มขนส่ง (+3.47%) และกลุ่มธนาคาร (-0.04%)  นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,256.46 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
      • IRS SWAP ปิดแกว่งตัว 2-6 bps   
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 44,518.32 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 851.71 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก
คลิก: KFGBRAND-A | KFGBRAND-D | KFGBRANSSF | KFGBRANRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน