สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
19/06/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบในวันที่ 16 มิ.ย. เนื่องจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สองรายได้ทำลายความหวังที่ว่า เฟดใกล้ที่จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก หรืออาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือน ธ.ค.ปีนี้
  • นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดเตือนว่า เงินเฟ้อพื้นฐานจะยังไม่ลดลงตามที่เขาคาดไว้ ขณะที่นายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า เขาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เมื่อพิจารณาจากการที่เงินเฟ้อยังไม่ลดลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
  • มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยในวันศุกร์ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 63.9 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 60.0 จากระดับ 59.2 ในเดือน พ.ค.
  • เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 2/2566 หลังจากขยายตัว 1.1% ในไตรมาส 1 สำหรับในปี 2565 เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ก่อนที่มีการขยายตัว 3.2% และ 2.6% ในไตรมาส 3 และ 4 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปี 2565 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% หลังจากพุ่งแตะระดับ 5.9% ในปี 2564
  • ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวกในวันที่ 16 มิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มสาธารณูปโภคที่ปรับตัวขึ้น หลังจากที่บรรดาธนาคารกลางรายใหญ่ประกาศนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ และล่าสุดธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินและตรึงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้
  • BOJ มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.10% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีไว้ที่ใกล้ 0%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันที่ 16 มิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอ่อนแอลงอย่างมาก หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
  • นักเศรษฐศาสตร์ของยูบีเอสกล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ในเดือนก.ค.นี้ เป็นการประชุมสำคัญที่น่าจับตา เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าที่ประชุมโปลิตบูโรจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหรืออาจจะมีการปรับเปลี่ยนแนวทางนโยบายครั้งสำคัญ
  • ยูบีเอสคาดว่ามาตรการต่างๆ ของจีนซึ่งมีเป้าหมายที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนนั้น จะครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียมบางรายการ ลดกฎระเบียบในการทำธุรกิจ ลดต้นทุนการทำธุรกรรม และลดภาระหนี้สินของบริษัทต่างๆ ซึ่งนโยบายเหล่านี้กำลังได้รับการผลักดันโดยสภาแห่งรัฐและกระทรวงหลักๆ ของจีน
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวระหว่างการพบปะกับนายบิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ว่า จีนยินดีที่จะทำงานกับทั่วโลกในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและร่วมแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ระดับโลก รวมถึงการป้องกันโรคระบาด
  • ตลาดหุ้นไทยวันที่ 16 มิ.ย. ส่วนใหญ่ซื้อขายในแดนบวก ปิดปรับตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันกลับมายืนเหนือ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปิดปรับตัวสูงขึ้น

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

มีความเป็นไปได้ว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อหนุนให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนและจะสะท้อนเข้ามายังราคาของหุ้นจีน แนะนำทยอยสะสมหุ้นจีน

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,299.12 จุด ลดลง 108.94 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,409.59 จุด ลดลง 16.25 จุด หรือ -0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,689.57 จุด ลดลง 93.25 จุด หรือ -0.68%
    • ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.2%, S&P500 เพิ่มขึ้น 2.6% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.2%
    • ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 464.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด หรือ +0.07%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,273.33 จุด เพิ่มขึ้น 20.36 จุด หรือ +0.63%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 71.78 ดอลลาร์/บาร์เรล และในรอบสัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้น 2.3%
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,971.20 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ลดลง 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,559.39 บวก 1.68 จุด (+0.11%) Trading Volume: 58,425.33 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+1.12%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (+0.11%) กลุ่มการแพทย์ (-0.97%) และกลุ่มอาหาร (-0.22%)  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,239.03 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดแกว่งตัว 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดไม่เปลี่ยนแปลง
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดแกว่งตัว 1 bp
      • IRS SWAP ปิดแกว่งตัว 1-3 bps      
    • นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 10,375.77 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 754.66 ล้านบาท   
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน