สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
08/05/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสานโดยที่ Dow Jones และ S&P500 ปิดบวก ในขณะที่ Nasdaq ปิดลบ ทั้งนี้ปัจจัยบวกมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง รวมถึงการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มค้าปลีก หลังจาก Coca-Cola รายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นและประกาศแผนซื้อหุ้นคืน 3.1 พันล้านดอลลาร์
  • ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันที่เข้ามา จนทำให้ Nasdaq ปิดลบคือ
    1. การที่ Stanley Druckenmiller ผู้บริหารกองทุนอดีตทีมงานของ George Soros ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขาได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้น NVIDIA ลงตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. โดยมองว่ากระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจถูกโหมจนเกินจริงไปบ้างในระยะสั้น ซึ่งประเด็นนี้ทำให้กลุ่มชิปร่วงลงยกแผง
    2. Tesla ปรับตัวลงกว่า 3% หลังตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ในจีนเดือน เม.ย. ยังลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
    3. Walt Disney ปรับตัวลงราว 10% หลังรายงานผลมีกำไรสุทธิมากกว่าที่คาด แต่บริษัทคาดการณ์ว่าจะขาดทุนในธุรกิจความบันเทิงสตรีมมิ่งต่างๆ ในไตรมาสถัดไป
  • ตลาดหุ้นยุโรป STOXX 600 ปรับตัวขึ้นแรงและทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) แรงหนุนหลักมาจากหุ้น Infineon ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปของเยอรมนี ปรับตัวขึ้นเกือบ 13% และ UBS Group ธนาคารของสวิตเซอร์แลนด์ปรับตัวขึ้น โดยทั้งคู่รายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาดไว้มาก โดยที่ UBS Group มีกำไรเป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่เทกโอเวอร์ Credit Suisse
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ปิดบวกหลังกลับมาเปิดทำการ โดยเป็นการฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ จากการรับปัจจัยบวกเรื่องตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่รายงานล่าสุดชะลอตัวลง ซึ่งหนุนมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
  • ตลาดหุ้นจีน Shanghai Composite ปิดบวกเล็กน้อย จากการขึ้นของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังจากมีรายงานว่าเมืองเซินเจิ้นซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ได้ดำเนินการตามทิศทางเดียวกับเมืองขนาดใหญ่แห่งอื่นๆ ของจีน ด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบการซื้อบ้าน
  • ตลาดหุ้นไทย SET ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังกลับมาเปิดทำการ ซึ่งรับปัจจัยบวกมาจากตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง หนุนความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากหุ้น TRUE ที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าตลาดคาด

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

เนื่องจากสัปดาห์นี้ค่อนข้างว่างเว้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญ ทำให้ตลาดเลือกจับตาไปที่ประเด็นอื่น โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ที่ล่าสุดกองกำลังของอิสราเอลได้บุกยึดพื้นที่ในเมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาได้สำเร็จแล้ว มองว่าสินทรัพย์ที่น่าจะได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้คือ ทองคำ ซึ่งได้ปรับตัวลงมาราว $100 จาก $2,400 สู่ระดับประมาณ $2,300 โดยนักลงทุนอาจเข้าลงทุนเมื่อทองคำอยู่ไม่ห่างจาก $2,300 มากนัก ทั้งนี้ด้วยระดับราคาทองคำยังไม่ได้ปรับตัวลงมามากนัก จึงแนะนำลงทุนด้วยสัดส่วนที่ไม่เกิน 5% ของพอร์ตโฟลิโอ

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,884.26 จุด เพิ่มขึ้น 31.99 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,187.70 จุด เพิ่มขึ้น 6.96 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,332.56 จุด ลดลง 16.69 จุด หรือ -0.10%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 514.02 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด หรือ +1.14%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดที่ตลาดที่ระดับ 38,835.10 จุด เพิ่มขึ้น 599.03 จุด หรือ +1.57%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,147.74 จุด เพิ่มขึ้น 7.02 จุด หรือ +0.22%
    • ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดที่ 73,511.85 ลบ 383.69 จุด หรือ 0.52%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 78.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 7 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 2,324.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,376.37 บวก 6.45 จุด (+0.47%) Trading Volume: 41,707.49 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.35%) ตามด้วยกลุ่มไอซีที (+1.65%) และกลุ่มธนาคาร (-0.04%) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,796.52 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1-2 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-3 bps
      • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 65,186.59 ล้านบาท
      • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,222.77 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน