สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
03/05/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า นอกจากนี้ การชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.58% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.887%
  • องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2567 ขึ้นสู่ระดับ 3.1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9% โดยระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ OECD ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในปี 2567 ขึ้นสู่ระดับ 2.6% จากระดับ 2.1%
  • บริษัทควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ประจำปีงบการเงิน 2567 ของบริษัท
  • บริษัทโมเดอร์นา เปิดเผยตัวเลขขาดทุนน้อยกว่าคาดในไตรมาส 1/2567 และรายได้สูงกว่าคาด โดยได้แรงหนุนจากมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายของบริษัท รวมทั้งยอดขายวัคซีนโควิด-19 ที่สูงกว่าคาด
  • London Stock Exchange Group (LSEG) ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัท 373 แห่งในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว โดย 77% ของบริษัทเหล่านี้มีผลประกอบการที่สูงเกินคาด
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 208,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายเดือนสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือน ก.พ.
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย โดยถูกกดดันจากการที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลังจากเดือน มิ.ย. และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนลดลงสู่ 45.7 ในเดือน เม.ย. จาก 46.1 ในเดือน มี.ค.
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสู่ 49.6 ในเดือน เม.ย. จาก 48.2 ในเดือน มี.ค.
  • ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวก 8 วันทำการติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นเหม่ยถวนและเจดีดอทคอม
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งในแดนบวกและลบ ปิดปรับตัวลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันร่วงลงแรง ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงเริ่มมีบรรยากาศการลงทุนโดยรวมที่ดีขึ้น หลังมีเม็ดเงินไหลกลับเข้าไปลงทุน ขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างเช่นตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตที่ออกมาเมื่อวันก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ด้านนักลงทุนก็คาดว่าทางการจีนจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,225.66 จุด เพิ่มขึ้น 322.37 จุด หรือ +0.85%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,064.20 จุด เพิ่มขึ้น 45.81 จุด หรือ +0.91% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,840.96 จุด เพิ่มขึ้น 235.48 จุด หรือ +1.51%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 503.21 จุด ลดลง 1.10 จุด หรือ -0.22%
    • ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (2 พ.ค.) เนื่องในวันแรงงาน
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.06% ปิดที่ 2,309.60 ดอลลาร์/ออนซ์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 78.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2567
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,363.25 ลบ 4.70 จุด (-0.34%) Trading Volume: 48,883.09 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายปานกลาง โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-1.30%) ตามด้วยกลุ่มไอซีที (+3.27%) กลุ่มพาณิชย์ (-0.04%) และกลุ่มธนาคาร (-0.42%)  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,204.55 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1-2 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1-2 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-3 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 3-8 bps
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 25,779.71 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,953.34 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีนและฮ่องกง
คลิก: KFACHINA-A | KF-CHINA | KFCMEGA-A | KFCSI300-A  | KFHCHINAD | KFACHINSSF | KFACHINRMF | KFCHINARMF | KFCMEGASSF | KFCMEGARMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน